“พิพัฒน์” เปิดบ้านต้อนรับหัวเว่ย รับฟังแนวคิด–อัปเดตเทคโนโลยีดิจิทัล เสริมประสิทธิภาพคมนาคมไทย ย้ำแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เพื่อประโยชน์ประชาชน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดโอกาสให้บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด เข้าพบเพื่อแสดงความยินดีและแลกเปลี่ยนแนวคิดด้านเทคโนโลยีดิจิทัลที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับภารกิจด้านคมนาคมขนส่งในอนาคต โดยมีนายวิลเลี่ยม จาง รองประธานกลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ บริษัท หัวเว่ยฯ พร้อมคณะเข้าร่วมหารือ ณ ห้องประชุมกระทรวงคมนาคม

ในการนี้ มีนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายจิรโรจน์ ศุกลรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) รวมถึงกองการต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม เข้าร่วมรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมให้ความสำคัญกับการติดตามและรับฟังพัฒนาการด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่สามารถนำมาช่วยยกระดับประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และคุณภาพการให้บริการด้านการเดินทางและการขนส่งของประเทศ ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อชีวิตประจำวันของประชาชน ทั้งในมิติความสะดวก ความปลอดภัย และต้นทุนการเดินทางที่เหมาะสม
การหารือในวันนี้ เป็นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และมุมมองด้านเทคโนโลยี เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐได้เห็นแนวโน้มและศักยภาพของนวัตกรรมที่อาจนำมาปรับใช้กับระบบคมนาคมขนส่งในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางราง ทางน้ำ หรือทางอากาศ โดยยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นศูนย์กลาง

ทั้งนี้ แนวคิดและเทคโนโลยีที่มีการแลกเปลี่ยน อาทิ การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและ AI ในการบริหารจัดการจราจรและความปลอดภัย การพัฒนาระบบควบคุมและติดตามการเดินทางแบบเรียลไทม์ การบริหารจัดการข้อมูลด้านคมนาคมขนส่งอย่างเป็นระบบและเชื่อมโยงกัน รวมถึงเทคโนโลยีที่สามารถช่วยสนับสนุนการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานให้มีประสิทธิภาพและพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น ภัยพิบัติหรือสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง
นายพิพัฒน์ ย้ำว่า การเปิดรับฟังแนวคิดจากภาคเอกชนและผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี เป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมความพร้อมเชิงนโยบาย เพื่อให้ประเทศไทยสามารถพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งให้ทันสมัย ปลอดภัย และตอบโจทย์การใช้ชีวิตของประชาชนได้ดียิ่งขึ้นในอนาคต พร้อมขอบคุณบริษัท หัวเว่ยฯ ที่ให้ความสำคัญกับการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับภาครัฐไทยอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้รายงานต่อที่ประชุมถึงความคืบหน้าในเชิงข้อมูลของกรอบความร่วมมือด้านการพัฒนาบุคลากรและการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ซึ่งเป็นแนวคิดที่เคยมีการหารือในระดับหน่วยงานมาแล้วในช่วงที่ผ่านมา เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาเชิงนโยบายในอนาคต
โดยกรอบแนวคิดดังกล่าว มุ่งเน้นการเตรียมความพร้อมบุคลากรภาครัฐให้สามารถปรับตัวและใช้เทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างเหมาะสม ครอบคลุมระบบคมนาคมขนส่งทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ อาทิ การพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้าน ICT การยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล การส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและ AI การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการข้อมูล และการสนับสนุนองค์ความรู้ด้านนวัตกรรมและงานวิจัย ทั้งหมดเป็นเพียงการเตรียมความพร้อมเชิงแนวคิด เพื่อรองรับการพัฒนาภาคคมนาคมอย่างมีประสิทธิภาพ ในระยะต่อไป
![]()
