นายพิชิต หุ่นศิริ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ระบุว่า สำหรับสถานการณ์อุทกภัยในปัจจุบัน ในส่วนของกรมทางหลวงชนบท (ทช.) โดยสำนักบำรุงทางรายงานว่า วันนี้ (5 พฤศจิกายน 2568) ยังมีโครงข่ายที่ได้รับผลกระทบประสบอุทกภัยใน 9 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี กำแพงเพชร ตาก นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก อุทัยธานี สุโขทัย และพระนครศรีอยุธยา โดยได้รับผลกระทบ 22 สายทาง แบ่งเป็น สัญจรผ่านได้ 16 สายทาง และไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 6 สายทาง
ซึ่งยังคงได้กำชับสำนักงานทางหลวงชนบท (สทช.) และแขวงทางหลวงชนบท (ขทช.) อย่างต่อเนื่อง ในการลาดตระเวนเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำในแต่ละภูมิภาค รวมถึงได้เน้นย้ำในเรื่องการบูรณาการร่วมกับจังหวัด ทั้งการสนับสนุนกำลังคน รถบรรทุกน้ำ ยานพาหนะ ถุงยังชีพ เพื่อเป็นกำลังใจและบรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลังอีกด้วย
นอกจากนี้ ในส่วนของบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำชี สะพานศิริโยธาพัฒนา (สาย ยส.002) ซึ่งเชื่อมระหว่างบ้านดอนขะยอม ตำบลสงเปือย อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร กับ บ้านดอนคำ ตำบลคำไฮ อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด ที่เกิดการทรุดตัวของเสาตอม่อสะพานหลังได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ขณะนี้เกิดการทรุดตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 1 เซนติเมตร
ซึ่งสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 7 (อุบลราชธานี) โดยแขวงทางหลวงชนบทยโสธร ได้จัดชุดเฝ้าระวังร่วมกับประชาชนในพื้นที่เพื่อติดตามเหตุอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง และในบริเวณสะพานดังกล่าวยังคงห้ามรถยนต์ รถบรรทุก 6 ล้อขึ้นไปใช้งาน แต่ยังสามารถอนุญาตให้รถจักรยานยนต์สัญจรผ่านได้
นอกจาก ทช. ได้ทำการติดตั้งสัญญาณไฟกระพริบ บริเวณทั้งสองฝั่งของสะพานแล้ว ยังได้ดำเนินการติดตั้งป้ายเตือน ป้ายทางเลี่ยงเพิ่มเติม เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและหากน้ำลดจะเร่งเข้าตรวจสอบความเสียหายเพื่อเตรียมเข้าซ่อมแซมทันทีหลังน้ำลดต่อไป
ทั้งนี้ ทช. ยังคงจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจโครงข่ายทางหลวงชนบทที่อยู่ในความรับผิดชอบทั่วประเทศ เพื่อสามารถให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุ โดยประชาชนสามารถแจ้งเหตุอุทกภัยได้ที่แขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่หรือสายด่วนกรมทางหลวงชนบท 1146
