Transport

“ไทย-ญี่ปุ่น” แลกเปลี่ยนนโยบาย-เทคโนโลยีพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนส่งทางถนนสองประเทศยั่งยืน

“คมนาคม-ญี่ปุ่น” สัมมนาทางวิชาการด้านการขนส่งทางถนนระหว่างไทยและญี่ปุ่น เพื่อแลกเปลี่ยนนโยบาย เทคโนโลยีและประสบการณ์ด้านการขนส่งทางถนน และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานยั่งยืน พร้อมลงพื้นที่โครงการก่อสร้างสะพานพระราม 10 เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาคู่ขนานกับสะพานพระราม 9 พ่วงอัปเดตผลงานสร้างทางด่วนสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ด้านตะวันตก คืบหน้า 72.44% คาดเปิดให้บริการบางส่วน ก.ค.นี้ เชื่อมโยงการเดินทางกรุงเทพฯ กับพื้นที่ปริมณฑลด้านตะวันตก

นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม มอบหมายให้ นายมนตรี เดชาสกุลสม รองปลัดกระทรวงคมนาคม หัวกลุ่มภารกิจการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านทางหลวง เป็นประธานเปิดงานสัมมนาทางวิชาการด้านการขนส่งทางถนนระหว่างไทยและญี่ปุ่น พร้อมด้วย Mr. ONODERA Seiichi, Deputy Minister for international Projects รองประธานองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น โดยมีผู้แทนจากกรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.)สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานทางถนนจากประเทศญี่ปุ่น จำนวน 13 บริษัท เข้าร่วมสัมมนาฯ เมื่อวันที่ 8 ก.พ.2567 ณ ห้องประชุมราชรถสโมสร อาคารราชรถสโมสร กระทรวงคมนาคม

ในการนี้ ผู้เข้าร่วมสัมมนาฯ ได้เดินทางไปศึกษาดูงาน ณ โครงการก่อสร้างสะพานพระราม 10 เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างพื้นฐานทางถนน และเป็นแนวทางการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศในอนาคต

นายมนตรี เดชาสกุลสม กล่าวว่า การจัดสัมมนาทางวิชาการด้านการขนส่งทางถนนระหว่างไทยและญี่ปุ่น ภายใต้บันทึกความร่วมมือระหว่าง “กระทรวงคมนาคมแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่งและการท่องเที่ยวแห่งญี่ปุ่น (MLIT)” มีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนนโยบาย เทคโนโลยีและประสบการณ์ด้านการขนส่งทางถนน และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างยั่งยืน

โดยการสัมมนาฯ แบ่งเป็น 4 หัวข้อ ได้แก่

1.Tunneling Technology เทคโนโลยีการขุดอุโมงค์ เป็นกระบวนการที่ใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือพิเศษเพื่อขุดเจาะทางเข้าอุโมงค์ในที่ดินหรือหินใต้ดินสำหรับการก่อสร้างเส้นทางขนส่งหรือสายท่อต่าง ๆ

2.Operation and Maintenance Technology เทคโนโลยีในการดำเนินการและบำรุงรักษาสิ่งของหรืออุปกรณ์ต่างๆ เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลตามเป้าหมาย

3.Intelligent Transportation Systems : ITS Technology เทคโนโลยีที่ใช้ในการจัดการและปรับปรุงระบบการขนส่งทางถนนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เช่น ระบบควบคุมการจราจรอัจฉริยะ ระบบเช็คสภาพถนน

4.New Material Technology เทคโนโลยีที่ใช้ในการพัฒนาวัสดุใหม่ ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาวัสดุที่มีคุณสมบัติพิเศษหรือที่ดีกว่าวัสดุทั่วไปในแง่ต่างๆ เช่น คอนกรีตชนิดพิเศษแห้งเร็ว

กระทรวงคมนาคมรับรู้ถึงความสำคัญของถนนที่เชื่อมต่อกับชุมชน ส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และเชื่อมต่อการขนส่งแบบไร้รอยต่อจึงมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ตรงตามมาตรฐานระดับสากล โดยให้ความสำคัญกับความมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และยั่งยืน

การสัมมนาฯ ในครั้งนี้จึงเป็นโอกาสอันดีที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ จะได้แลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีมาตรฐานร่วมกับบริษัทเอกชนชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งเร่งรัดพัฒนาและบูรณาการเทคโนโลยีด้านโครงสร้างพื้นฐานให้มีประสิทธิภาพในทุกมิติ

โครงการก่อสร้างสะพานพระราม 10 เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีความกว้างที่สุดในประเทศไทย โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ด้านตะวันตก ก่อสร้างเป็นสะพานขึง (Cable Stayed Bridge) คู่ขนานกับสะพานพระราม 9 ตัวสะพานมีจุดเริ่มต้นบริเวณเชิงลาดสะพานพระราม 9 (ฝั่งธนบุรี) ขนาด 8 ช่องจราจร ความยาวช่วงกลางสะพาน (Mid Span) 450 เมตร ความยาวสะพาน 780 เมตร สิ้นสุดโครงการฯ ที่บริเวณทางแยกต่างระดับบางโคล่ เชื่อมต่อกับทางพิเศษเฉลิมมหานครและทางพิเศษศรีรัช ระยะทางรวมประมาณ 2 กิโลเมตร

การก่อสร้างได้คำนึงถึงปัญหาการจราจรที่ติดขัดสะสมในช่วงขึ้นสะพานพระราม 9 จึงออกแบบการก่อสร้างให้มีความลาดชันน้อยกว่าสะพานพระราม 9 ที่เริ่มยกระดับจากพื้นดิน เป็นเริ่มยกระดับจากระดับชั้นที่ 2 ซึ่งสูงจากพื้นดินประมาณ 10 เมตร ทำให้ผู้ใช้ทางสามารถวิ่งขึ้น-ลงสะพานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ไม่เกิดการชะลอตัวสะสมในช่วงขาขึ้นสะพาน นอกจากนี้ ยังได้จัดทำแบบจำลองสะพาน Full Model สำหรับทดสอบความแข็งแรงของสะพานต่อแรงลม ซึ่งสามารถรับแรงลมได้ถึง 270 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เทียบเท่าความแรงของพายุทอร์นาโด ดังนั้นสะพานจึงมีความแข็งแรงเป็นอย่างยิ่ง

ทั้งนี้ โครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ด้านตะวันตก มีผลการดำเนินงาน (ณ เดือน ม.ค.2567) กว่า 72.44% คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการโครงการฯ (บางส่วน) ได้ภายในเดือน ก.ค.2567 เพื่อเชื่อมโยงการเดินทางระหว่างกรุงเทพฯ กับพื้นที่ปริมณฑลด้านตะวันตก และช่วยลดเวลาการเดินทางให้กับผู้ใช้ทางพิเศษให้ได้รับความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

Loading

Back to top button