Transport

“สุริยะ” ลั่นดันนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ครบทุกสี ก.ย.ปีหน้า ลดค่าครองชีพประชาชน

“สุริยะ” เดินหน้าเต็มกำลัง ดันนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย ครบทุกสีเดือน ก.ย.68 หวังลดค่าครองชีพประชาชน พร้อมรุกทำจัดเส้นทาง Feeder หวังรองรับผู้โดยสารผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าในพื้นที่

วันนี้ (29 เม.ย.2567) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากเมื่อช่วงเดือน ก.ย.2566 ที่ได้จัดทำแผนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ซึ่งได้นำร่องโครงการโดยใช้รถไฟฟ้าสายสีแดง และรถไฟฟ้าสายสีม่วง โดยเล็งเห็นว่าอัตราโดยสารสำหรับผู้ที่ใช้รถไฟฟ้าระยะไกลมีอัตราสูงถึง 192 บาท ซึ่งเป็นการสร้างภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนอย่างมาก ดังนั้นจึงต้องการลดภาระค่าครองชีพโดยการปรับลดค่าโดยสาร

สำหรับแนวทางการดำเนินการนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายนั้น มั่นใจว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ปี หรือ ช่วง ก.ย.2568 รถไฟฟ้าทุกสี และทุกสาย จะเข้าร่วมนโยบายทั้งหมด ขณะที่รถไฟฟ้าสีอื่นๆ ที่อยู่ในขั้นตอนการก่อสร้างและเตรียมก่อสร้าง ซึ่งเมื่อโครงการแล้วเสร็จ หากตนยังคงดำรงอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ขอยืนยันว่าจะผลักดันให้เข้าร่วมนโยบายทั้งหมดเช่นกัน

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า นโยบายดังกล่าวนอกจากเป็นการลดภาระค่าครองชีพของประชาชนแล้ว ยังสามารถลดปัญหา PM 2.5 ในขณะนี้ได้อีกด้วย เนื่องจากประชาชนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวได้มีการปรับเปลี่ยนการเดินทางมาใช้รถไฟฟ้าแทน รวมถึงยังแก้ปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่ได้อีกด้วย

ทั้งนี้ยังอยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางการจัดเส้นทางฟีดเดอร์ (Feeder) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย พร้อมคาดว่าภายในระยะ 2-3 เดือนนี้จะเห็นความชัดเจน ซึ่งนอกเหนือจากองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) แล้ว หากเอกชนรายใดที่มีความพร้อมด้านการให้บริการขนส่ง ก็สามารถเข้าร่วมการจัดเส้นทาง Feeder ได้ ซึ่งแผนระยะสั้นจะผลักดันประมาณ 30 เส้นทาง เพื่อรองรับการให้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีแดง ส่วนระยะต่อไป คาดเป็นช่วงปี 2568-2569 จะเพิ่มจำนวนเพิ่มเติม เพื่อรองรับการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สายสีเขียว สายสีชมพู และสายสีส้ม และอีก 66 เส้นทางจะดำเนินการในระยะถัดไปตั้งแต่ปี 2570 เป็นต้นไป

ด้านแผนจัดทำ พรบ.ตั๋วร่วม ขณะนี้มีการเจรจากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว และอยู่ระหว่างพิจารณาถึงหลักการด้านต่างๆ ที่มีความเหมาะสม เบื้องต้นคาดว่าภายในปี 2568 จะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังได้เตรียมแผนจัดตั้งกองทุนเพื่อชดเชยผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องจากมาตรการดังกล่าว โดยเม็ดเงินจากกองทุนที่จะนำมาชดเชยนั้นจะมาจาก ขอรับการสนับสนุนจากกองทุนอนุรักษ์พลังงาน การสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล เป็นต้น

Loading

Back to top button