“ทางหลวงชนบท” ช่วยเหลือชาว “เชียงราย” จากเหตุอุทกภัยต่อเนื่อง เตรียมฟื้นฟูสายทางหลังน้ำเริ่มลด
วันนี้ (14 ก.ย.2567) นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ระบุว่า ได้อัปเดตสถานการณ์น้ำท่วม จ.เชียงราย เริ่มคลี่คลายลงแล้ว หลังจากพายุดีเปรสชัน “ยางิ” พาดผ่านบริเวณภาคเหนือตอนบน มีฝนตกต่อเนื่อง และฝนตกหนักที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ถนนทางหลวงชนบท และพื้นที่เกษตรกรรมได้รับผลกระทบ
ขณะนี้บางสายทางน้ำเริ่มลดลงแล้ว ทช. จึงได้ระดมเจ้าหน้าที่สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 17 (เชียงราย) และแขวงทางหลวงชนบทเชียงราย เข้าให้การช่วยเหลือประชาชนและฟื้นฟูสายทางที่ได้รับความเสียหายจากเหตุอุทกภัยในครั้งนี้ พร้อมทั้งอำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชนผู้ใช้เส้นทางจนกว่าสถานการณ์อุทกภัยจะเข้าสู่ภาวะปกติ
ปัจจุบันมีโครงข่ายทางหลวงชนบทที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย จำนวน 9 สายทาง ดังนี้
1.ถนนสาย ชร.1023 (กม.ที่ 15+000 ถึง 15+200) บริเวณทางลอดหน้าท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง น้ำท่วมสูง 4.50 เมตร ไม่สามารถสัญจรได้
2.ถนนสาย ชร.1041 (กม.ที่ 0+000 ถึง 1+200) น้ำท่วมสูง 0.20 เมตร สามารถสัญจรได้
3.ถนนสาย ชร.4010 (กม.ที่ 0+200 ถึง 0+400) น้ำท่วมสูง 0.40 เมตร และน้ำกัดเซาะคอสะพานขาด ไม่สามารถสัญจรได้
4.ถนนสาย ชร.1063 (กม.ที่ 8+300 ถึง 9+900) สะพานโยนกนาคนคร 3 น้ำท่วมสูง 0.30 เมตร สามารถสัญจรได้ และ (กม.ที่ 38+200 ถึง 39+200) สะพานโยนกนาคนคร 1 น้ำท่วมสูง 0.40 เมตร ไม่สามารถสัญจรได้
5.ถนนสาย ชร.5054 (กม.ที่ 11+000 ถึง 11+500) น้ำท่วมสูง 0.40 เมตร ไม่สามารถสัญจรได้
6.ถนนสาย ชร.4060 (กม.ที่ 3+900 ถึง 4+800) น้ำท่วมสูง 0.30 เมตร สามารถสัญจรได้
สำหรับผลกระทบจากน้ำท่วมบนถนนเชิงลาดสะพาน (สะพานชุมชน) จำนวน 3 แห่ง ดังนี้
1.สาย ชร.007 พ่อขุนเม็งรายมหาราช น้ำกัดเซาะคอสะพานขาด ไม่สามารถสัญจรได้
2.สาย ชร.022 ประชาร่วมใจ (กม.ที่ 1+450 ถึง 2+000) น้ำท่วมสูง 0.60 เมตร ไม่สามารถสัญจรได้
3.สาย ชร.016 สะพานแม่น้ำกก น้ำกัดเซาะสะพานขาด ไม่สามารถสัญจรได้
ปัจจุบัน ทช. ได้ดำเนินการฟื้นฟูสายทางที่ได้รับผลกระทบในบางพื้นที่หลังจากสถานการณ์คลี่คลาย โดยได้นำเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการล้างทำความสะอาดสายทางและสะพาน เพื่อคืนสภาพผิวการจราจรให้กับประชาชน อย่างไรก็ตาม ยังคงมีน้ำท่วมสายทางของ ทช. ในพื้นที่ เนื่องจากถนนบางสายมีน้ำท่วมสูง ยังไม่สามารถสัญจรผ่านได้ และบางสายทางที่น้ำลดลงแล้ว ยังคงมีเศษดินโคลน ทช. จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีพื้นที่ใดประสบปัญหาจะได้เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนได้อย่างทันท่วงที โดยขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางโปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด
หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่แขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ หรือโทรสายด่วน กรมทางหลวงชนบท 1146