“กรมการขนส่งทางบก” แนะนำประชาชนเลือกใช้บริการรถรับจ้างผ่านแอปพลิเคชันที่ถูกกฎหมาย โดยมีแอปฯ ที่ได้รับรองจากกรมฯ จำนวน 9 ราย พร้อมกำชับ!!! ผู้ให้บริการรถรับจ้างผ่านแอปฯ เร่งรัดพนักงานขับรถในสังกัดรถเข้ามาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย
นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ระบุว่า ณ ปัจจุบันประชาชนมีการเรียกใช้บริการรถรับจ้างผ่านแอปพลิเคชันมากขึ้นเพราะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเดินทางของประชาชน ซึ่งมีความสะดวกสบาย รวดเร็ว สอดคล้องกับการใช้ชีวิตและการเดินทางในยุคปัจจุบัน
กรมการขนส่งทางบกซึ่งเป็นหน่วยงาน ในการควบคุม กำกับ ดูแลการให้บริการด้านรถสาธารณะ จึงแนะนำให้ประชาชนเลือกใช้รถรับจ้างผ่านแอปพลิเคชันที่ถูกกฎหมาย ซึ่งสังเกตได้ หากเป็นรถแท็กซี่ ต้องจดทะเบียนรถเป็นรถยนต์สาธารณะ และมีป้ายเหลือง
ในส่วนของรถยนต์ส่วนบุคคลต้องจดทะเบียนเปลี่ยนประเภทเป็น “รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์” และติดสติ๊กเกอร์สัญลักษณ์แสดงการเป็นรถยนต์รับจ้างทั้งด้านหน้าและด้านหลังรถที่เห็นได้ชัดเจน สำหรับรถจักรยานยนต์รับจ้างผ่านแอปพลิเคชันที่ถูกต้องตามกฎหมายต้องเป็นรถจักรยานยนต์สาธารณะ (ป้ายเหลือง) และคนขับจะต้องสวมใส่เสื้อกั๊กหรือเสื้อคลุมของแอปพลิเคชัน เมื่อให้บริการด้วย
โดยแอปพลิเคชันที่ได้รับรองจากกรมฯ ปัจจุบันมีอยู่จำนวน 9 ราย ได้แก่ แกร็บ (Grab), โบลท์ (Bolt), อินไดร์ฟ (inDrive), ไลน์แมน (Lineman), แม็กซิม (Maxim), ลาล่ามูฟ (Lalamove), แอร์เอเชีย (AirAsia), ทาดา (TADA) และ ฟินโกโก (Fingogo) ซึ่งแอปพลิเคชันที่กรมการขนส่งทางบกให้การรับรองจะมีความปลอดภัยไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ ใช้บริการ แสดงอัตราค่าโดยสารล่วงหน้าที่ชัดเจนโดยละเอียด และภาครัฐสามารถตรวจสอบได้ มีประกันครอบคลุมตามที่กฎหมายคุ้มครองผู้ประสบภัยฯ กำหนด เพื่อให้ประชาชนได้รับการบริการที่ปลอดภัย เป็นธรรม และเมื่อเกิดอุบัติเหตุยังได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายผู้ประสบภัยฯ อีกด้วยนอกจากนี้
กรมการขนส่งทางบกได้เน้นย้ำให้ผู้ประกอบการแอปพลิเคชันผู้ให้บริการรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์รับจ้าง ผ่านแอปพลิเคชันเร่งรัดพนักงานขับรถในสังกัดให้นำรถเข้ามาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งสามารถ ยื่นคำขอการจดทะเบียนเปลี่ยนประเภทเป็นรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ โดยรถที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานคร ให้ยื่น ณ สำนักการขนส่งผู้โดยสาร หรือสำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 4 ตามที่รถนั้นจดทะเบียนอยู่ในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบ ส่วนภูมิภาคสามารถยื่นคำขอได้ที่กลุ่มวิชาการขนส่ง สำนักงานขนส่งจังหวัด โดยผู้ยื่นคำขอต้องมีชื่อเป็นเจ้าของรถยนต์ และรถต้องมีอายุการใช้งานไม่เกิน 9 ปี นับตั้งแต่วันที่จดทะเบียนครั้งแรก จำกัด 1 คนต่อ 1 คัน ซึ่งผู้ยื่นคำขอต้องมีใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ หรือใบอนุญาต เป็นผู้ขับรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกในประเภทที่ใช้แทนกันได้ที่ยังไม่สิ้นอายุ ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วนกรมการขนส่งทางบก “1584” ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
![]()
