“กรมราง” ถกญี่ปุ่น ดันโปรเจกต์ไฮสปีด กรุงเทพฯ-พิษณุโลก 380 กม.
“กรมการขนส่งทางราง” ถกญี่ปุ่นความเหมาะสมทางเศรษฐกิจโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-พิษณุโลก ระยะทาง 380 กม. เผยผลการศึกษาพบคุ้มค่าด้านเศรษฐศาสตร์
วันนี้ (8 มี.ค.2566) ดร.พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เป็นประธานการประชุมหารือด้านเทคนิคโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ พร้อมด้วยนายอธิภู จิตรานุเคราห์ รองอธิบดี และผู้แทนฝ่ายไทย ประกอบด้วย สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และผู้แทนจากฝ่ายญี่ปุ่น ประกอบด้วย ผู้แทนจากกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐานการขนส่งและการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น (MLIT) องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) และสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย
โดยทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันพิจารณาผลการศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจและการเงินของโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ฉบับสมบูรณ์ รวมถึงความร่วมมือในอนาคต
สำหรับการประชุมดังกล่าวเป็นการประชุมต่อเนื่องจากการประชุมด้านเทคนิคฯ เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2565 ซึ่งฝ่ายญี่ปุ่นได้นำเสนอผลการศึกษาความเหมาะสมทางเศรษฐกิจ รวมทั้งผลประโยชน์ทางตรงและทางอ้อม พบว่าโครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-พิษณุโลก มีอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) อยู่ที่ร้อยละ 17.3 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ ร้อยละ 12 โดยมีมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) เป็นบวกตลอดระยะเวลาดำเนินการ จึงก่อให้เกิดความคุ้มค่าในด้านเศรษฐศาสตร์ นับตั้งแต่ทั้งสองประเทศได้ลงนามในบันทึกความร่วมมือการพัฒนาระบบรางระหว่างไทย-ญี่ปุ่น (Memorandum of Cooperation : MOC) เมื่อวันที่ 27 พ.ค.2558 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
โดยฝ่ายไทยและญี่ปุ่นได้ตกลงร่วมกันในการดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะแรกในเส้นทางกรุงเทพฯ-พิษณุโลก ระยะทาง 380 กิโลเมตร (กม.) รวมถึงเส้นทางพิษณุโลก-เชียงใหม่ในอนาคต โครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ถือเป็นโครงการสำคัญที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคมให้แก่ประเทศไทย
การประชุมในวันนี้แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือและมิตรภาพที่แน่นแฟ้นระหว่างทั้งสองประเทศ และนำไปสู่ความสำเร็จของการดำเนินโครงการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตต่อไป