“รฟท.” จับมือ “นครสวรรค์” ลุยพัฒนาระบบโลจิสติกส์ อ.ตาคลี
“รฟท.” จับมือ “นครสวรรค์” ด้านการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ อ.ตาคลี ดันจุดเชื่อมต่อสําคัญระบบการขนส่งสินค้าทางรางระหว่าง ภูมิภาคไทย–ประเทศเพื่อนบ้าน
เมื่อวันที่ (7 ก.ค.2566) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับจ.นครสวรรค์ ด้านการพัฒนา ระบบโลจิสติกส์ในพื้นที่ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ โดยมี นายสุจิตต์ เชาว์ศิริกุล รองผู้ว่ารฟท. นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ในพื้นที่ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ พร้อมด้วย นายศิริพงศ์ คุมพ์ประพันธ์ รองผู้อํานวยการฝ่าย ด้านการตลาดฝ่ายบริการสินค้า การรถไฟฯ และนายจุมพฏวรรณ ฉัตรศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ร่วมเป็นสักขีพยาน ณห้องประชุมแกรนด์บอลรูม โรงแรม 42C เดอะ ซิค โฮเทล จ.นครสวรรค์
นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสํานักงานผู้ว่าการ รฟท. เปิดเผยว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ในพื้นที่ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ระหว่าง รฟท. กับ จ.นครสวรรค์ โดยทั้งสองหน่วยงานจะร่วมกันพัฒนาให้ จ.นครสวรรค์ให้เป็นจุดเชื่อมต่อสําคัญใน ระบบการขนส่งทางรางระหว่างภาคเหนือกับจังหวัดอื่นๆของประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งได้กําหนดเป้าหมายในการพัฒนา จ.นครสวรรค์ 20 ปี โดยกําหนดให้อ.ตาคลีให้เป็นอําเภอต้นแบบ Takhi Sandbox (ตาคลี แซนบ๊อกซ์)
ดังนั้น รฟท. และ จ.นครสวรรค์ จึงเล็งเห็นถึงความสําคัญและโอกาสที่จะพัฒนาการขนส่งทางรางใน จ.นครสวรรค์ ให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งทางราง โดยใช้พื้นที่สถานีรถไฟจันเสนเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์หลายรูปแบบ (Multimodal Logistics Hub) รองรับ การขนส่งทางราง และการเปลี่ยนรูปแบบการขนส่ง (Model shifting) เพื่อส่งเสริมให้เกิดการลงทุนและการ ขยายตัวทางเศรษฐกิจ สร้างงานสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ และจังหวัดใกล้เคียง
ซึ่งเป็นไปตาม นโยบายของนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่า รฟท. ที่มุ่งเน้นสนับสนุนส่งเสริมการขนส่งสินค้าภายในประเทศและ การส่งออกสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และประเทศจีน ซึ่งมีเส้นทางรถไฟเชื่อมต่อไปยังกลุ่มประเทศยุโรป เพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่ รฟท. รวมทั้งช่วยยกระดับโลจิสติกส์ของประเทศ ให้สามารถแข่งขันทัดเทียมกับ นานาประเทศ
การขนส่งสินค้าทางราง ถือว่าเป็นระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ ต้นทุนต่ํา ประหยัดพลังงาน และ มีความคุ้มค่าสามารถขนส่งได้ครั้งละจํานวนมากกว่าทางถนนหลายเท่าตัว โดยที่ผ่านมา รฟท. ได้ สนับสนุนกลุ่มบริษัทพันธมิตรทางการค้า ทั้งหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ทดลองเปิดเดินขบวนรถขนส่ง สินค้าทางรถไฟไปยังศูนย์กระจายสินค้าผ่านเส้นทางรถไฟในหลายเส้นทาง และขณะนี้ยังดําเนินการอยู่อย่าง ต่อเนื่อง อาทิ สินค้าเกลือ ทุเรียนยางพารา และ ไม้ปาร์ติเคิลบอร์ด เมล็ดพลาสติก เป็นต้น ซึ่งถือเป็นอีกก้าว สําคัญที่จะนําไปสู่การเปลี่ยนถ่ายการขนส่งจากทางถนนมาสู่การขนส่งทางราง
รฟท. มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาศักยภาพการขนส่งสินค้าทางราง อย่างต่อเนื่อง ซึ่งประชาชนในพื้นที่จะได้ประโยชน์โดยตรง สามารถนําสินค้าในท้องถิ่น ผลิตภัณฑ์ชุมชนขนส่ง กับทางรถไฟเพื่อเชื่อมโยงแหล่งผลิตไปยังจุดหมายปลายต่างๆ ช่วยอํานวยความสะดวกด้านการขนส่ง ลดมลพิษ ลดระยะเวลาการเดินทาง ช่วยประหยัดต้นทุนการขนส่งให้ภาคประชาชน และเอกชน
เพิ่มขีดความสามารถระบบขนส่งโลจิสติกส์ของประเทศ ให้สามารถแข่งขันทัดเทียมกับนานาประเทศ และก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของอาเซียนต่อไป ทั้งนี้ผู้ประกอบการที่สนใจใช้บริการขนส่งสินค้า ภาคเกษตร หรือภาคอุตสาหกรรม สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง