Logistic

“กทท.” ขยายความร่วมมือประเทศเส้นทางสายไหมทางทะเล

“กทท.” ร่วมสัมมนาสานสัมพันธ์​และขยายความร่วมมือกับประเทศในบริเวณ​เส้นทางสายไหมทางทะเล​ แสดงจุดยืนหนุนความร่วมมือระหว่างท่าเรือและการเดินเรือในภูมิภาค สร้างเครือข่ายตามยุทธศาสตร์ One Belt One Road ยกระดับให้บริการที่มีประสิทธิภาพ

เรือโท​ภูมิ​ แสงคำ​ ผู้อำนวยการท่าเรือกรุงเทพ​ (อ.ทกท.) นายวิวัฒน์​ อะมริต ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและบัญชี​ และพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เข้าร่วมสัมมนาสานสัมพันธ์​และขยายความร่วมมือกับประเทศในบริเวณ​เส้นทางสายไหมทางทะเล​ “The 7th Maritime Silk Road Port International Cooperation Forum”  ระหว่างวันที่​ 16-20​ ก.ค.2566​ ณ​ เมือง​หนิงป่อ (Ningbo) สาธารณรัฐ​ประชาชน​จีน​

สำหรับการประชุม High-level Roundtable meeting อ.ทกท.​ ได้กล่าวสุนทรพจน์​ร่วมกับผู้บริหารระดับสูงจากหน่วนงานชั้นนำระดับโลกกว่า 30​ หน่วยงาน เพื่อกล่าวเจตนารมย์ในการแสดงจุดยืนของ​ กทท.​ ในการสนับสนุนและผลักดันความร่วมมือระหว่างท่าเรือและการเดินเรือในภูมิภาค การมุ่งสร้างเครือข่ายตามยุทธศาสตร์ One Belt One Road เพื่อยกระดับการให้บริการให้มีประสิทธิภาพและให้ความสำคัญในการร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ผ่านการพัฒนาด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม อย่างปลอดภัยและยั่งยืนร่วมกัน

สรุปผลการสัมมนาเวทีด้านการพัฒนาท่าเรือ การสร้างเครือข่ายพันธมิตร การลงทุนและนวัตกรรม พบว่า​ ธุรกิจท่าเรือกำลังเผชิญความท้าทายจากความผันผวนของตลาดขนส่งสินค้าทางทะเลต่อเนื่อง แม้จะเริ่มฟื้นตัวในอีก 5 ปี​ ข้างหน้า ในช่วงปี 2023-2027 ตลาดโลกจะขยายตัวอย่างน้อย 3% มีปัจจัยเสี่ยงสำคัญคือโครงสร้างธุรกิจขนส่งจากสายเรือที่เปลี่ยนแปลงไป บนความไม่แน่นอนที่สูงกว่าในอดีต

โดยจีนได้มีการพัฒนาโครงสร้างท่าเรือผ่านการร่วมทุนทั้งเอเชียและยุโรป ตามเส้นทาง One belt One road ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ผ่านระบบท่าเรืออัตโนมัติ ควบคู่ไปกับการใช้พลังงานสะอาดในกิจกรรมท่าเรือมากขึ้น ซึ่งมีแนวโน้มไปในทางเดียวกันกับท่าเรือชั้นนำต่างๆทั่วโลก

Loading

Back to top button