“เจ้าท่า” แจงก่อสร้างเขื่อนกันทราย&คลื่นร่องน้ำบ้านกรูด @ประจวบคีรีขันธ์
“กรมเจ้าท่า” ชี้แจงโครงการก่อสร้างเขื่อนกันทราย ระยะทาง 1,350 เมตร พร้อมคลื่นร่องน้ำบ้านกรูด อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ งบฯ 109 ล้านบาท เหตุล่าช้าจากปัญหาสภาพพื้นที่ชายฝั่งและตลิ่งในร่องน้ำเปลี่ยนแปลงไป พ่วงประชาชนขอให้ปรับแนวเขื่อนกันทรายและคลื่นด้านทิศตะวันออกให้มีมุมเปิดกว้างขึ้น 10 เมตร คาด ก.ย.นี้ ผู้รับจ้างเริ่มก่อสร้างต่อให้เสร็จ
ตามที่มีประชาชนร้องเรียนเรื่องความตื้นเขินของร่องน้ำบ้านกรูดผ่านสื่อไทยรัฐ ออนไลน์ว่า “วันที่ 14 ส.ค.2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านปากคลอง หมู่ 2 ต.ธงชัย อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังจากที่ นายสุชาติ นุ่มศรี ประธานกลุ่มประมงบ้านกรูด และชาวประมงกลุ่มประมงพื้นบ้าน บ้านกรูด ร้องเรียนปัญหาผ่านสื่อฯ เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากกรณีผู้รับเหมาก่อสร้างเขื่อนกันทรายและคลื่นร่องน้ำบ้านกรูด ได้หยุดการก่อสร้างตั้งแต่ปีที่แล้ว ส่งผลกระทบให้เกิดตะกอนทรายมาทับถมบริเวณปากคลองที่เชื่อมต่อกับทะเล ทำให้เรือประมงไม่สามารถนำเรือเข้าออกได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงน้ำลด หลังจากเคยร้องเรียนผ่านสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ก็ยังไม่ได้รับ
การแก้ไขปัญหา กรมเจ้าท่าขอเรียนชี้แจงว่า กรมเจ้าท่าอยู่ระหว่างการดำเนินโครงการก่อสร้างเขื่อนกันทราย และคลื่นร่องน้ำบ้านกรูด อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตามสัญญาเลขที่ 129/2563/ พย. ลงวันที่ 30 ธ.ค.2563 กำหนดแล้วเสร็จภายในวันที่ 23 มิ.ย.2565 วงเงินค่าก่อสร้าง 109,860,000 บาท โดยบริษัท วัฒนาธร จำกัด เป็นผู้รับจ้างก่อสร้าง
เนื้องานตามสัญญา ประกอบด้วย การก่อสร้างเขื่อนเรียงหินกันทรายและคลื่นด้านทิศตะวันออกความยาว 235 เมตร ด้านทิศตะวันตกความยาว 325 เมตร กำแพงหินทิ้งป้องกันตลิ่งความยาว 160 เมตร ท่าเทียบเรือ 1 ท่า ความยาวหน้าท่า 95 เมตร ขุดลอกร่องน้ำทางเรือเดิน ความยาว 1,075 เมตร กว้าง 20 เมตร ลึก 4.00 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (หรือ 2.50 เมตร ต่ำจากระดับน้ำลงต่ำสุด) ติดตั้งเครื่องหมายช่วยการเดินเรือ และงานเสริมทรายชายหาดบ้านกรูดระยะทางประมาณ 1,350 เมตร
สาเหตุความล่าช้าของการดำเนินการก่อสร้าง สืบเนื่องมาจากปัญหาสภาพพื้นที่ชายฝั่งและตลิ่งในร่องน้ำเปลี่ยนแปลงไป ประกอบกับประชาชนได้ร้องขอให้กรมเจ้าท่าปรับแนวเขื่อนกันทรายและคลื่นด้านทิศตะวันออกให้มีมุมเปิดกว้างขึ้นอีกประมาณ 10 เมตร
กรมเจ้าท่าจึงจำเป็นจะต้องดำเนินการแก้ไขปรับปรุงรูปแบบให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ที่เปลี่ยนแปลงไปและเพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานร่องน้ำของชาวประมง ให้เกิดความสะดวกปลอดภัย ซึ่งปัจจุบันกรมเจ้าท่าได้อนุมัติรูปแบบแก้ไขของานก่อสร้างเขื่อนกันทรายและคลื่นพร้อมองค์ประกอบอื่นเรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดทำร่างบันทึกข้อตกลงแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญา และพร้อมจะให้ผู้รับจ้างเริ่มดำเนินงานก่อสร้างต่อจนแล้วเสร็จได้ ตั้งแต่เดือน ก.ย.2566 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตามสำหรับปัญหาร่องน้ำตื้นเขิน ที่ทำให้ชาวประมงสัญจรเข้าออกร่องน้ำไม่สะดวกนั้น กรมเจ้าท่าจะดำเนินงานขุดลอกตลอดร่องน้ำและหน้าท่าเรือ ตามเนื้องานภายในสัญญาเพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาว สำหรับการแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วน กรมเจ้าท่าได้ร่วมกับผู้รับจ้างดำเนินงานขุดลอกร่องน้ำ เพื่อให้ชาวประมงสามารถใช้ร่องน้ำได้ โดยด่วน