Transport

ฟังเสียงชาวระยองครั้ง 2 ศึกษาฟีดเดอร์เชื่อมไฮสปีดเทรนเชื่อมสามสนามบินพื้นที่อีอีซี

สกพอ. เปิดเวทีรับฟังเสียงประชาชน ครั้งที่ 2 เร่งศึกษาระบบ Feeder เชื่อมต่อไฮสปีดเทรนเชื่อมสามสนามบินในพื้นที่ EEC

วันนี้ (19 ก.ย.2566) เวลา 09.00 น. สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ได้จัดการประชุมสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชน (ครั้งที่ 2 : สรุปผลคัดเลือกรูปแบบการพัฒนาโครงการ) โครงการจ้างที่ปรึกษาศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้นของระบบขนส่งสาธารณะที่เชื่อมโยงกับการพัฒนารถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินกับการพัฒนาเมืองใหม่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ณ ห้องสัมมนาหลักสิรินพลา ชั้น 1 โรงแรมสิรินพลา รีสอร์ท แอนท์ เรสเตอรองท์ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง โดยได้รับเกียรติจาก นายกิติพงศ์ อุระวัตร นายอำเภอบ้านฉาง เป็นประธานเปิดการประชุม เพื่อนำเสนอผลสรุปการคัดเลือกรูปแบบการพัฒนาโครงการ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมประชุม ได้แสดงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ โดยมีผู้แทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานราชการ และประชาชนเข้าร่วมประชุมด้วย

สำหรับการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในครั้งที่ 2 ทาง สกพอ. และที่ปรึกษาโครงการฯ ได้นำเสนอข้อมูลแนวเส้นทางและรูปแบบระบบขนส่งมวลชนรองของโครงการ  โดยโครงการได้ศึกษาโครงข่ายให้มีการเชื่อมโยงการเดินทางระหว่างพื้นที่เมืองใหม่กับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน จำนวน 3 แนวเส้นทาง ได้แก่ แนวเส้นทางด้านเหนือ เมืองใหม่ อีอีซี-สถานีรถไฟความเร็วสูงศรีราชา แนวเส้นทางด้านตะวันตก เมืองใหม่ อีอีซี-สถานีรถไฟความเร็วสูงพัทยา แนวเส้นทางด้านใต้ เมืองใหม่ อีอีซี-สถานีรถไฟความเร็วสูงอู่ตะเภา ซึ่งจากผลการเปรียบเทียบความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ และผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น พบว่า แนวเส้นทางด้านใต้ เมืองใหม่ อีอีซี-สถานีรถไฟความเร็วสูงอู่ตะเภา เป็นแนวเส้นทางที่เหมาะสมที่สุด เพื่อนำมาเป็น “โครงการนำร่อง” สำหรับการศึกษาแนวเส้นทางและออกแบบรูปแบบแนวคิดเบื้องต้นของโครงการ

ทั้งนี้ ที่ปรึกษาโครงการฯ ได้คัดเลือกแนวเส้นทาง สำหรับการออกแบบรูปแบบแนวคิดเบื้องต้น 4 แนวเส้นทาง ดังนี้ แนวเส้นทางที่ 1 จุดเริ่มต้นพื้นที่เมืองใหม่ อีอีซี ผ่านทางหลวงหมายเลข 331-ทางหลวงหมายเลย 332-ทางหลวงหมายเลข 3 และไปสิ้นสุดที่สถานีรถไฟความเร็วสูงอู่ตะเภา แนวเส้นทางที่ 2 จุดเริ่มต้นพื้นที่เมืองใหม่ อีอีซี ผ่านทางหลวงหมายเลข 331-มอเตอร์เวย์หมายเลข 7 ผ่านทางหลวงหมายเลข 3 และไปสิ้นสุดที่สถานีรถไฟความเร็วสูงอู่ตะเภา แนวเส้นทางที่ 3 จุดเริ่มต้นพื้นที่เมืองใหม่ อีอีซี ผ่านถนนตามแนวผังเมือง ญ.16-ทางหลวงหมายเลข 3376-ทางหลวงหมายเลข 3 และไปสิ้นสุดที่สถานีรถไฟความเร็วสูงอู่ตะเภา แนวทางเลือกที่ 4 จุดเริ่มต้นพื้นที่เมืองใหม่ อีอีซี ผ่านถนนตามแนวผังเมือง ญ.16-ทางหลวงหมายเลข 3 และไปสิ้นสุดที่สถานีรถไฟความเร็วสูงอู่ตะเภา

ซึ่งจากการคัดเลือกแนวเส้นทาง พบว่า แนวเส้นทางที่ 2 มีความเหมาะสมมากที่สุด โดยแนวเส้นทางมีจุดเริ่มต้น บริเวณพื้นที่เมืองใหม่ อีอีซี จากนั้นจะเป็นทางยกระดับเหนือทางหลวงหมายเลข 331 (ใกล้กับสถานีตำรวจภูธรห้วยใหญ่) โดยทางยกระดับจะยาวต่อเนื่องประชิดเขตมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 (เขาชีจรรย์ เขาชีโอน) จากนั้นยกระดับข้ามทางหลวงหมายเลข 3 (สุขุมวิท) และไปจุดสิ้นสุดที่สถานีรถไฟความเร็วสูงอู่ตะเภา ผ่านพื้นที่ 2 จังหวัด 3 อำเภอ จ.ชลบุรี อ.บางละมุง และ อ.สัตหีบ จ.ระยอง อ.บ้านฉาง รวมระยะทาง 20 กิโลเมตร

ส่วนการคัดเลือกรูปแบบระบบขนส่งมวลชนรองที่มีความเหมาะสมกับโครงการนำร่อง สามารถแบ่งได้ 2 กลุ่มหลัก ดังนี้

กลุ่มที่ 1 รถโดยสารที่วิ่งบนถนน โดยใช้พลังงานไฟฟ้า (Road-(Tire) based system) แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1.ระบบรถไฟฟ้าล้อยาง บังคับด้วยมนุษย์ เช่น รถโดยสารทั่วไป (Conventional Bus) รถโดยสารด่วนพิเศษ (Bus Rapid Transit : BRT) 2.ระบบรถไฟฟ้าล้อยาง นำร่องและบังคับอัตโนมัติด้วยทางเสมือน (Rubber Tire Vehicle with Virtual Track) เช่น รถโดยสารอัตโนมัติ (Automated Rapid Transit : ART)

กลุ่มที่ 2 ระบบรางที่วิ่งบนทางเฉพาะ (Fixed guideway-based system) แบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้

1.ระบบรถไฟฟ้าล้อเหล็ก (Conventional Rail-based) เช่น รถไฟฟ้าขนาดเบา/รถราง (Light Rail Transit : LRT/ Tram) รถรางบนทางรถไฟ (Tram-train) 2.ระบบรถไฟฟ้าร่วมสมัย (Contemporary Transit System) เช่น รถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Monorail) รถไฟฟ้าอัตโนมัติไร้คนขับ (Automated Guideway Transit : AGT / Automated People Mover : APM) หรือรถไฟแม่เหล็กไฟฟ้า (Urban Maglev)

ทั้งนี้จากการคัดเลือกรูปแบบระบบขนส่งมวลชนรองที่เหมาะสม พบว่า รูปแบบระบบราง มีความเหมาะสมที่สุด ในการศึกษาครั้งนี้ ซึ่งหลังจากนี้ ที่ปรึกษาโครงการฯ จะนำรูปแบบระบบขนส่งมวลชนรองนี้มาออกแบบรูปแบบแนวคิดเบื้องต้นของโครงการนำร่องและจะนำเสนอผลสรุปในการประชุมครั้งต่อไป

ภายหลังการประชุมครั้งนี้ สกพอ.และที่ปรึกษาโครงการฯ จะรวบรวมข้อมูลความคิดเห็น และข้อเสนอแนะจากผู้เข้าร่วมประชุม มาปรับใช้และพัฒนาโครงการให้มีความเหมาะสมกับประชาชนในพื้นที่โครงการให้มากที่สุดพร้อมทั้งจะดำเนินการจัดกิจกรรมการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างต่อเนื่องเพื่อรับฟังความคิดเห็นและประชาสัมพันธ์รายละเอียดข้อมูลโครงการไปสู่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนในพื้นที่โครงการได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องต่อไป

Loading

Back to top button