อัปเดตวันนี้!! น้ำท่วมทางหลวงภาคเหนือ ผ่านไม่ได้ 4 แห่ง
อัปเดตวันนี้!! กรมทางหลวง เผยถูกน้ำท่วม 4 จังหวัดภาคเหนือ การจราจรผ่านไม่ได้ 4 แห่ง พร้อมเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อเนื่องและติดตามสถานการณ์ 24 ชม.
กรมทางหลวง (ทล.) ระบุว่า ได้ทำการสรุปสถานการณ์อุทกภัยและดินสไลด์บนทางหลวง ประจำวันที่ 1 ต.ค.2566 เวลา 12.30 น. พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จ.ลำพูน, จ.ลำปาง, จ.สุโขทัย, จ.กำแพงเพชร จำนวน 7 สายทาง 7 แห่ง การจราจรผ่านไม่ได้ 4 แห่ง รายละเอียดดังนี้
1.ทางหลวงหมายเลข 1010 ร้องธาร-ม่วงโตน อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน ช่วง กม.ที่ 15+250-15+375 ระดับน้ำ 50 ซม. การจราจรผ่านไม่ได้ แนะนำทางเลี่ยงใช้เส้นทางท้องถิ่น
2.ทางหลวงหมายเลข 1184 แม่อาว-ดอนมูล อ.ทุ่นหัวช้าง จ.ลำพูน ช่วง กม.ที่ 48+748-48+753 การจราจรผ่านไม่ได้ น้ำกัดเซาะคอสะพานชำรุดให้ใช้ทางเลี่ยง ทล.1184 ถึงสี่แยกไม้ตะเคียนเลี้ยวซ้ายเดินทางต่อ 2.6 กม. เจอสามแยกเลี้ยวขวา เดินทางต่อ 3.6 กม. เลี้ยวขวาเดินทางต่อ 2.4 กม. เจอสามแยกวังปานเลี้ยวซ้าย
3.ทางหลวงหมายเลข 1102 พระบาท-บ้านเหล่า อ.แม่พริก จ.ลำปาง ช่วง กม.ที่ 2+400-3+000 ระดับน้ำ 100 ซม. การจราจรผ่านไม่ได้ แนะนำทางเลี่ยงใช้เส้นทางท้องถิ่น
4.ทางหลวงหมายเลข 1056 ศรีสำโรง-ดอนโก อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ช่วง กม.ที่ 13+700-14+800 ระดับน้ำ 30 ซม. การจราจรผ่านไม่ได้ แนะนำทางเลี่ยงใช้เส้นทางหลวงท้องถิ่น สท.ถ 1 0029 และถนน รพช.สท.3081 แทน
ทั้งนี้หน่วยงานในพื้นที่ทั่วประเทศได้ทำการเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยกรณีที่น้ำท่วมสูงได้ดำเนินการติดตั้งป้ายเตือนพร้อมเร่งระบายน้ำ กรณีถนนหรือสะพานขาด/ชำรุด ได้เร่งติดตั้งสะพานเบลีย์เชื่อมทาง สำหรับกรณีดินไหล่เขาข้างทาง Slide ได้นำเครื่องจักรเขาเกลี่ยดินออกจากเส้นทาง พร้อมวางแท่งแบริเออร์ กระสอบทราย กำแพงดินเพื่อชะลอน้ำ และจัดทำแผนที่ทางเลี่ยงเส้นทางที่ได้รับผลกระทบ
อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางหลวงเดินทางด้วยความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัย พร้อมปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด และหากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางได้ที่ทวิตเตอร์ กรมทางหลวง @prdoh1