สหกรณ์ที่ดินบ้านคลองโยง ร้องคมนาคมทบทวนก่อสร้างถนนต่อเชื่อมถนนนครอินทร์ ช่วงศาลายา-นครชัยศรี
สหกรณ์ที่ดินบ้านคลองโยง ยื่นหนังสือกระทรวงคมนาคม 3 ข้อ ขอให้ทบทวนการก่อสร้างโครงการถนนต่อเชื่อมถนนนครอินทร์ ช่วงศาลายา-นครชัยศรี บรรเทาความเดือดร้อนชาวบ้านในพื้นที่ พร้อมปกป้องพื้นที่เกษตรกรรมโฉนดชุมชนแห่งแรกของประเทศไทย ห้ามถนนผ่านพื้นที่
วันนี้ (6 ต.ค.2566) นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม มอบหมายให้ นายสรพันธ์ คุณากรวงศ์ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นผู้แทนรับหนังสือและร่วมหารือกับสหกรณ์ที่ดินบ้านคลองโยง จำกัด เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้านในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างถนนต่อเชื่อมถนนนครอินทร์ช่วงศาลายา-นครชัยศรี โดยมี นายวีรเดช ชีวาพัฒนานุวงศ์ วิศวกรใหญ่ (ด้านสำรวจและออกแบบ) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมหารือ ณ ห้องประชุมกระทรวงคมนาคม
นายสรพันธ์ คุณากรวงศ์ กล่าวว่า กลุ่มสหกรณ์ที่ดินบ้านคลองโยง จำกัด ได้ยื่นหนังสือเพื่อขอให้กระทรวงฯ ช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้านในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างถนนต่อเชื่อมถนนนครอินทร์ช่วงศาลายา-นครชัยศรี ดังนี้
1.ขอให้พิจารณาข้อเท็จจริง เพื่อปกป้องพื้นที่เกษตรกรรมโฉนดชุมชนแห่งแรกของประเทศไทย โดยไม่ให้ดำเนินการก่อสร้างถนนผ่านพื้นที่ ซึ่งมีความเป็นมาเพื่อการจัดรูปที่ดิน ในรูปแบบสหกรณ์นิคมให้เกษตรกรทำเกษตรกรรม ตลอดจนห้ามเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินนอกจากการทำเกษตรกรรม
2.ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยุติโครงการฯ เนื่องจากไม่คุ้มค่ากับการลงทุนด้วยงบประมาณ 5,000 ล้านบาท เป็นการทำลายชีวิตชุมชนชาวนาดั้งเดิม พื้นที่โฉนดชุมชน เกิดความเสียหายในการเปลี่ยนแปลงเชิงนิเวศกับพื้นที่เกษตรกรรมทุ่งนครชัยศร
3.ขอให้กรมทางหลวงชนบทและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณาทางเลือกในการแก้ไขปัญหาการจราจรแบบยั่งยืน โดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ พื้นที่เกษตรกรรมอันอุดมสมบูรณ์ เช่น การพัฒนาการคมนาคมและการขนส่งระบบราง รวมทั้งการพัฒนาซ่อมแซมหรือขยายถนนทางหลวงชนบทที่มีอยู่แล้ว และการพัฒนาระบบการขนส่งทางน้ำด้วยการพัฒนาระบบคูคลองที่มีอยู่ในพื้นที่
ทั้งนี้ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้รับข้อร้องเรียน และมอบหมายกรมทางหลวงชนบทพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้ชาวบ้านโดยด่วน ตามนโยบาย “คมนาคม เพื่อความอุดมสุขของประชาชน” ต่อไป