“สุริยะ” ร่วมเบิร์ดเดย์ สนข. ครบรอบ 21 ปี พร้อมมอบนโยบายเร่งขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม พลิกโฉมประเทศไทย กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีในการเดินทางแก่ประชาชน
วันนี้ (9 ต.ค.2566) เวลา 10.00 น. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานงานวันคล้ายวันสถาปนาสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ครบรอบ 21 ปี พร้อมด้วย นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) นายยงยุทธ สาระสมบัติ สมาชิกวุฒิสภา นางสาวรัชนีพร ธิติทรัพย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม และคณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคม เข้าร่วมงาน โดยมี นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุมยงยุทธ สาระสมบัติ ชั้น 5 อาคาร สนข.
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวว่า เมื่อ 21 ปีที่แล้วในวันสถาปนา สนข. ในปี 2545 จำได้ว่า ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมอยู่ในขณะนั้น ปัจจุบันผ่านมา 21 ปี ตนกลับมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมอีกครั้งในวันนี้ ซึ่งหากเปรียบเทียบ สนข. ในวันนี้กับการเจริญเติบโตขึ้นของคนต้องถือว่าได้เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่วัยหนุ่มอย่างเต็มตัว มีสมรรถนะร่างกายที่พร้อมจะทำหน้าที่ให้เกิดประโยชน์กับประเทศและประชาชน
ซึ่งที่ผ่านมาเห็นถึงผลงานที่ สนข. ได้ช่วยพัฒนาประเทศตลอดระยะเวลา 21 ปี จึงขอถือโอกาสนี้แสดงความยินดีแก่ผู้บริหาร สนข. และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ ที่เป็นฟันเฟืองสำคัญในการเร่งรัดผลักดัน การดำเนินงานตามนโยบายสำคัญของกระทรวงคมนาคม ทำหน้าที่เป็นตัวกลาง ประสาน แปลงนโยบายสู่การปฏิบัติ จนประสบความสำเร็จในหลาย ๆ เรื่อง การก้าวสู่ปีที่ 22 นับจากนี้ไป หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สนข. จะยังคงมุ่งมั่นสู่การเป็น “องค์กรนำในการกำหนดทิศทางและขับเคลื่อนการพัฒนาระบบคมนาคมของประเทศ” เพื่อให้สอดคล้องกับความคาดหวังและความต้องการของประเทศชาติและประชาชน ตลอดจนสภาวการณ์ ของประเทศที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม และขอให้ตั้งใจปฏิบัติงาน เพื่อประเทศชาติและพี่น้องประชาชนดังเช่นที่ทำมาตลอด 21 ปี
ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบนโยบายในการปฏิบัติงานให้กับ สนข. เพื่อนำไปใช้ปฏิบัติให้สอดคล้องกับภารกิจของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม ตามนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อสภาผู้แทนราษฎร ที่มุ่งเน้นการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชน ผ่านการสร้างรายได้ ลดรายจ่าย สร้างโอกาส และลดความเลื่อมล้ำ กระทรวงคมนาคมจัดเป็นหนึ่งในกลไกที่จะช่วยขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมในทุกมิติ ทั้งทางถนน ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ ดังนี้
มิติด้านขนส่งสินค้า รายได้ของประเทศไทยส่วนหนึ่งขึ้นกับการส่งออกสินค้าไปขายต่างประเทศ เพื่อให้สินค้าของไทยมีราคาที่สามารถแข่งขันกับสินค้าจากประเทศอื่น ๆ ได้ กระทรวงคมนาคมจำเป็นต้องหาแนวทางที่จะลดต้นทุนภาคการขนส่งของประเทศลง ดังนั้น สนข. ต้องทำการวิเคราะห์ และนำเสนอแผนงานโครงการด้านคมนาคมที่สามารถช่วยลดต้นทุนการขนส่งเหมือนกับประเทศที่เจริญแล้ว อาทิ ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ประเทศเหล่านั้นใช้การขนส่งสินค้าทางรถไฟ สนข. ต้องดูว่าอะไรคืออุปสรรคและปัญหา ที่ทำให้ผู้ประกอบการหรือภาคเอกชนของไทยยังคงใช้การขนส่งสินค้าทางถนนโดยรถบรรทุก อะไรคืออุปสรรคที่ผู้ประกอบการยังไม่มาใช้การขนส่งทางรถไฟ สนข. ต้องทำแผนงานที่จัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกในการขนส่งทางรถไฟให้ครบถ้วน ต้องมีสถานีเปลี่ยนถ่ายตู้สินค้าจากรถบรรทุกสู่รถไฟให้เพียงพอ จัดให้มีเครื่องมือสำหรับการขนถ่ายตู้สินค้าที่มีประสิทธิภาพ
มิติด้านการเดินทางของประชาชน หากประเทศไทยมีระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่ไม่แพง คนไทยจะหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มมากขึ้น ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวลง ทำให้ประเทศชาติประหยัดการใช้พลังงาน ลดการนำเข้าน้ำมัน ช่วยลดค่าใช้จ่ายของประเทศ นอกจากนี้ การลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่ก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพในปัจจุบัน เพื่อให้คุณภาพชีวิตของคนไทยดีขึ้น สนข. ต้องเข้าไปดูว่าอะไรคือสาเหตุที่คนไทยโดยเฉพาะคนที่อาศัยในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ยังคงใช้รถยนต์ส่วนตัว ต้องไปดูว่าระบบขนส่งสาธารณะในกรุงเทพฯ มีประสิทธิภาพหรือไม่ แผนงานของกระทรวงคมนาคมต้องพัฒนาระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนที่มีเส้นทางที่ครอบคลุมพื้นที่ที่มีความต้องการในการเดินทาง ดังนั้น สนข. ต้องเร่งรัดแผนงานจัดให้มีระบบขนส่งรอง หรือ Feeder ที่จะให้ประชาชนเดินทางออกจากบ้านมาใช้รถไฟฟ้าได้สะดวก ไม่ใช่ต้องนั่งรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างตากแดดตากฝนเพื่อมาขึ้นรถไฟฟ้า
มิติด้านราคาค่าโดยสารระบบขนส่งสาธารณะ ต้องไม่แพง สนข. ต้องเร่งขับเคลื่อนเรื่อง พ.ร.บ. การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมฯ ซึ่งหากมี พ.ร.บ. การจะขับเคลื่อนให้ผู้ประกอบการเดินรถไฟฟ้าแต่ละรายหันมาใช้บัตรโดยสารรูปแบบเดียวกันจะทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะทำให้มีข้อมูลการเดินทางของพี่น้องประชาชนเพียงพอที่จะนำมาทำการวิเคราะห์หาราคาค่าโดยสารที่เป็นธรรมต่อประชาชนผู้เดินทาง และเป็นธรรมต่อผู้ประกอบการเดินรถที่ต้องเสียเงินลงทุนไป นอกจากนี้ การใช้บัตรเพียงใบเดียวในการเดินทางผ่านรถไฟฟ้าหลายสาย การจะคิดค่าแรกเข้าเพียงครั้งเดียวจะสามารถดำเนินการได้ ทำให้ประชาชนไม่ต้องเสียค่าแรกเข้าหลายครั้ง ทำให้ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของพี่น้องประชาชนลงได้
มิติด้านการส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ ตามที่นายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ได้มีข้อสั่งการให้ทุกกระทรวงเร่งรัดแผนงานโครงการเพื่อกระตุ้นให้กิจกรรมการท่องเที่ยวกลับมาเฟื่องฟู เพราะรายได้จากการท่องเที่ยวถือเป็นรายได้ที่สำคัญของไทย สนข. มีโครงการศึกษาพัฒนาเส้นทางถนนเลียบชายฝั่งทะเลด้านอันดามัน ขอให้เร่งรัดดำเนินการศึกษาให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยรูปแบบของถนนเลียบชายฝั่งทะเล ต้องสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติให้อยากมาเห็นความสวยงามของท้องทะเลและชายหาดที่ปัจจุบันถนนหนทางยังเข้าไม่ถึง รวมถึงขอให้ไปศึกษารูปแบบการพัฒนาของต่างประเทศ แล้วนำมาประยุกต์ใช้กับประเทศไทยต่อไป
มิติด้านการขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมเพื่อพลิกโฉมประเทศไทย ปัจจุบันประเทศไทยพึ่งพารายได้จากภาคเกษตรกรรมและการท่องเที่ยว หากประเทศไทยสามารถพัฒนาโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมจังหวัดชุมพรและระนอง หรือ โครงการแลนด์บริดจ์ สำเร็จ จะพลิกโฉมประเทศไทยให้กลายมาเป็นประเทศที่มีความสำคัญด้านการขนส่งสินค้าของภูมิภาคและของโลก โครงการนี้รัฐบาล และกระทรวงคมนาคมได้ยืนยันต่อประชาชนว่าจะขับเคลื่อนโครงการแลนด์บริดจ์ต่อ ดังนั้น ขอให้ สนข. เร่งรัดการศึกษา แต่ให้ทำการศึกษาอย่างรัดกุม รอบคอบ และทำตามกรอบที่กฎหมายกำหนด ที่สำคัญต้องทำการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เพื่อทำการพัฒนาโครงการให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้กล่าวแสดงความยินดีและอวยพรแก่ผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ สนข. และขอให้บุคลากรของ สนข. ปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ ในการ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เจริญ มั่นคง และสร้างความสุขให้แก่ประชาชนอย่างยั่งยืนต่อไป จากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้มอบทุนการศึกษา “คำรบลักขิ์ สุรัสวดี” ประจำปี 2566 ให้แก่บุตรของบุคลากร สนข. ที่มีผลการเรียนดีในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา
