สายการบิน แอร์ นิวกินี สั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัส เอ220 เพิ่มฝูงบินทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
สายการบิน แอร์ นิวกินี สั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัส เอ220 จำนวน 6 ลำ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถและความน่าเชื่อถือให้กับสายการบินตลอดทั้งเครือข่ายภายในประเทศ หนุนเส้นทางจากเมืองหลวง พอร์ตมอร์สบี สู่จุดหมายปลายทางใหม่จำนวนมากทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
วันนี้ (1 พ.ย.2566) สายการบิน แอร์ นิวกินี (Air Niugini) สายการบินแห่งชาติของประเทศปาปัวนิวกินี ได้ลงนามในคำสั่งซื้อเครื่องบินทางเดินเดี่ยวรุ่นใหม่ล่าสุด เอ220-100 (A220-100) จำนวน 6 ลำกับแอร์บัส โดยคำสั่งซื้อนี้อยู่ภายใต้โครงการพัฒนาปรับปรุงฝูงบินให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ทางสายการบินจะจัดหาเครื่องบินเพิ่มเติมจากบริษัทให้เช่าเครื่องบิน โดยเป็นรุ่น เอ220-300 (A220-300) จำนวน 3 ลำ และเอ220-100 (A220-100) เพิ่มอีกจำนวน 2 ลำ
คำสั่งซื้อดังกล่าวได้ประกาศขึ้นในงานซึ่งจัดขึ้นเป็นพิเศษ ณ เมืองพอร์ตมอร์สบี (Port Moresby) เมืองหลวงของประเทศปาปัวนิวกีนี นำโดยนายแกรี่ เซดดอน (Gary Seddon) รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบิน แอร์ นิวกินี และนายอานันท์ สแตนลีย์ (Anand Stanley) ประธานบริษัทแอร์บัสประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และนายกรัฐมนตรี เจมส์ มาราเป (Hon. James Marape) และนายวิลเลียม ดูมา (Hon. William Duma) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงรัฐวิสาหกิจ ประเทศปาปัวนิวกินี ร่วมเป็นสักขีพยาน
สายบินแอร์ นิวกินี จะเริ่มให้บริการบินด้วย A220 เครื่องบินรุ่นที่มีพิสัยบินที่ไกลที่สุด ใช้เชื้อเพลิงที่ต่ำที่สุด และมีขนาดห้องโดยสารที่กว้างที่สุดในเครื่องบินประเภท 100-150 ที่นั่ง บนเครือข่ายการบินทั้งภายในประเทศและทั่วภูมิภาค โดยฝูงบินใหม่นี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถและความน่าเชื่อถือให้กับสายการบินตลอดทั้งเครือข่ายภายในประเทศ และทำให้สายการบินแอร์ นิวกินี สามารถทำการบินในเส้นทางจากเมืองหลวง พอร์ตมอร์สบี ไปสู่จุดหมายปลายทางใหม่จำนวนมากทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
นายแกรี่ เซดดอน รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบิน แอร์ นิวกินี กล่าวว่า นี่คือมุดหมายสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ของสายการบินประจำชาติเราที่จะร่วมสนับสนุนการเติบโตทางการค้าและการท่องเที่ยวในประเทศปาปัวนิวกินี ฝูงเครื่องบินรุ่นใหม่เหล่านี้จะมอบความสะดวกสบายอย่างสูงสุดให้กับผู้โดยสาร ในขณะเดียวกันก็เป็นการยืนยันความมุ่งมั่นต่อการลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิง และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างมีนัยยะสำคัญ เมื่อเทียบกับเครื่องบินรุ่นเดิมที่เรานำมาเปลี่ยนทดแทน
นายวิลเลียม ดูมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงรัฐวิสาหกิจ ได้กล่าวว่า นี่ถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญยิ่งของแอร์ นิวกินี เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 50 ปีของสายการบิน เราได้จัดหาเครื่องบินระดับภูมิภาครุ่นใหม่จำนวน 6 ลำ ที่จะพลิกโฉมการเดินทางให้กับชาวปาปัวนิวกินี และผมก็ตั้งตารอที่จะต้อนรับ “เครื่องบินของประชาชน (People’s Balus)” สู่น่านฟ้าของพวกเรา
นายคริสเตียน เชอเรอร์ (Christian Scherer) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเครื่องบินพาณิชย์และหัวหน้าฝ่ายต่างประเทศของแอร์บัส กล่าวว่า สายการบิน แอร์ นิวกินี เล็งเห็นแล้วว่า A220 ตอบโจทย์และนำมาซึ่งประโยชน์ให้กับสายการบินได้มากกว่าผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งในวงการมากเพียงใด ทั้งในด้านประสิทธิภาพ พิสัยการบิน ความสะดวกสบาย และศักยภาพในการเติบโตที่มากกว่าเดิม เราขอขอบคุณที่สายการบิน แอร์ นิวกินี เชื่อมั่นในแอร์บัส และเรามุ่งมั่นที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ในการปรับใช้ฝูงเครื่องบินรุ่นใหม่ของ แอร์ นิวกินี
นอกจากนี้ แอร์ นิวกินี ยังได้ประกาศด้วยว่าสายการบินเลือกใช้ระบบสนับสนุนการวางแผนการบิน (Flight Planning Support System) จากนาฟบลู (NAVBLUE) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของแอร์บัส ให้กับฝูงบินของสายการบินอีกด้วย โดยสายการบิน แอร์ นิวกินี สามารถใช้โซลูชันที่ชื่อว่า “N-Flight Planning (N-FP)” ของ NAVBLUE เพื่อปรับการใช้เชื้อเพลิงได้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงระยะเวลาและต้นทุนให้เหมาะสมต่อความต้องการในการปฏิบัติงาน ขณะเดียวกันก็รับรองทั้งในด้านความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนดโดยรวมเช่นกัน
A220 เป็นเครื่องบินโดยสารรุ่นที่ทันสมัยที่สุดในกลุ่มเครื่องบินขนาดเดียวกัน สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ตั้งแต่ 100 ถึง 150 คน บนพิสัยการบินที่ไกลสูงสุดถึง 3,450 ไมล์ทะเล (6,390 กม.) จำนวนบรรทุกผู้โดยสารสูงสุดนี้จะขึ้นอยู่กับการเลือกปรับแต่งห้องโดยสาร โดยเครื่องบินรุ่น A220-100 จะรองรับตลาดเครื่องบินขนาด 100-135 ที่นั่ง ในขณะที่ A220-300 ที่มีขนาดใหญ่กว่า ได้รับการออกแบบมาอย่างสมบูรณ์แบบสำหรับตลาดขนาด 120-150 ที่นั่ง
เครื่องบิน A220 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เกียร์เทอร์โบแฟน (GTF™) รุ่นใหม่ล่าสุดของบริษัท แพรตต์ แอนด์ วิทนีย์ (Pratt & Whitney) ลดการใช้เชื้อเพลิงและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ลงถึง 25 เปอร์เซ็นต์ต่อที่นั่ง เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องบินรุ่นก่อนหน้า เครื่องบิน A220 ยังมีห้องโดยสาร เก้าอี้โดยสาร และมุมมองหน้าต่างที่ใหญ่ที่สุดในเครื่องบินประเภทเดียวกัน จึงมั่นใจได้ถึงความสะดวกสบายที่เหนือกว่า
เช่นเดียวกับเครื่องบินแอร์บัสทุกลำ เครื่องบิน A220 สามารถใช้เชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel: SAF) ได้สูงสุดถึง 50 เปอร์เซ็นต์ โดยแอร์บัสตั้งเป้าให้เครื่องบินทุกลำสามารถปฏิบัติการด้วยเชื้อเพลิงแบบ SAF ได้สมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2573 นี้
ข้อมูล ณ สิ้นเดือน ก.ย.2566 แอร์บัสได้รับคำสั่งซื้อเครื่องบินรุ่น A220 มากกว่า 800 รายการ จากลูกค้าร่วม 30 ราย และได้ทำการส่งมอบไปแล้วมากกว่า 280 ลำ ในปัจจุบันเครื่องบิน A220 ให้บริการบินโดย 17 สายการบินทั่วโลก