“สุริยะ” ลุยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมตอบสนองความสุขประชาชนทุกมิติ
“สุริยะ” เปิดงาน iTIC FORUM 2023 พร้อมปาฐกถาพิเศษ เน้นย้ำนโยบาย “คมนาคม เพื่อความอุดมสุขของประชาชน” ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล เดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมตอบสนองความสุขของประชาชนในทุกมิติ
วันนี้ (2 พ.ย.2566) ณ โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท กรุงเทพฯ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดงานสัมมนา 4th iTIC FORUM 2023 : Power of Connectivity and Smart Mobility และกล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “ความพร้อมของการเชื่อมต่อโครงสร้างพื้นฐานในประเทศไทย” พร้อมด้วย นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม จัดโดยมูลนิธิศูนย์ข้อมูลจราจรอัจฉริยะไทย (Intelligent Traffic Information Center Foundation) หรือ iTIC ร่วมกับกระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข กองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล และคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิทั้งในและต่างประเทศมาร่วมให้ความรู้ด้าน Connectivity and Smart Mobility เพื่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และเผยแพร่ความรู้ให้กับสังคม ตลอดจนยกระดับการพัฒนาระบบขนส่งและจราจรอัจฉริยะในประเทศไทย พร้อมระดมพลังความร่วมมือและขับเคลื่อนข้อมูลในการแก้ปัญหาการจราจรและลดอุบัติเหตุได้อย่างตรงจุด
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวว่า การสัมมนาและนิทรรศการในวันนี้ สอดคล้องกับทิศทางการดำเนินงานของกระทรวงคมนาคมตามบทบาทภารกิจที่จะขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล และพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทุกรูปแบบ ทั้งทางถนน ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ ผ่านการบูรณาการเชื่อมต่อร่วมกันอย่างไร้รอยต่อ เพื่อให้การเดินทางและการขนส่งสินค้าเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ตนได้มอบนโยบายการดำเนินงาน “คมนาคม เพื่อความอุดมสุขของประชาชน” เน้นย้ำการดำเนินงานของกระทรวงฯ ให้ตอบสนองต่อความสุขของประชาชนในทุกมิติ มุ่งเน้นความมีประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเข้าถึงอย่างเสมอภาคเท่าเทียม และการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
จึงเห็นได้ว่ามีความสอดคล้องกับการดำเนินงานของ iTIC ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินทาง ลดการจราจรติดขัด และเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนให้กับประชาชนคนไทย ซึ่งได้รับทราบจากกรมทางหลวง (ทล.) ว่า ได้เคยมีการใช้งานระบบรายงานจราจรของ iTIC เป็นเครื่องมือในการสื่อสารกับประชาชนให้ทราบถึงสภาพการจราจรในบริเวณพื้นที่ก่อสร้าง เพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัด ในพื้นที่โครงการก่อสร้างของกระทรวงฯ บนถนนพระราม 2 ซึ่งได้ผลเป็นอย่างดี
โดยกระทรวงฯ ได้มุ่งมั่นพัฒนาระบบคมนาคมและโลจิสติกส์ ให้มีความเชื่อมโยงและครอบคลุม มีความพร้อม ตอบสนองความคาดหวังของประชาชนและบรรลุเป้าหมายที่ได้กล่าวไว้แล้ว ผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการให้บริการด้านคมนาคมที่สำคัญตามนโยบายของกระทรวงฯ ดังนี้
1.การพัฒนาระบบคมนาคมเพื่อเปิดประตูการค้า การท่องเที่ยว สร้างการเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงการเดินทางทุกมิติ
2.การพัฒนาระบบคมนาคมเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน
3.การพัฒนาระบบคมนาคมเพื่อคุณภาพชีวิตและลดต้นทุนในการเดินทาง
4.การพัฒนาระบบคมนาคมเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น
นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ตั้งแต่ที่ตนได้เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ประมาณ 2 เดือน ได้ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ที่เกิดประโยชน์ในด้านบวก เช่น กระทรวงฯ ได้เสนอปรับลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า โดยในระยะแรกได้นำร่องรถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีม่วง ในราคาไม่เกิน 20 บาท เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้ประชาชน ช่วยทำให้ประชาชนที่ปัจจุบันใช้รถยนต์ส่วนบุคคล หันมาใช้ระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้ามากขึ้น เห็นได้จากตัวเลขผู้โดยสารในสัปดาห์แรก หลังเริ่มใช้นโยบายนี้ พบว่ามีประชาชนใช้บริการรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น
ในส่วนการพัฒนาโครงการสำคัญ หรือ Mega Project ที่จะมีผลกระตุ้นระบบเศรษฐกิจและเกิดการพัฒนาประเทศในระยะยาว กระทรวงฯ ได้ศึกษาโครงการสะพานเศรษฐกิจหรือ Land Bridge เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาการขนส่งตู้สินค้าทางเรือ หลีกเลี่ยงปัญหาการติดขัดของช่องแคบมะละกา โดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้รับทราบหลักการของโครงการแล้ว และให้กระทรวงฯ เริ่มดำเนินการ Road Show เพื่อนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุนต่างชาติที่สนใจมาร่วมลงทุนพัฒนาโครงการต่อไป
ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดของการสัมมนาในวันนี้ ตนมีความคาดหวังว่าจะได้มีการนำนโยบายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกที่กระทรวงฯ ได้ดำเนินการอยู่ รวมทั้งผลการหารือร่วมกันในวันนี้ นำไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ซึ่งจะเกิดขึ้นได้จากการบูรณาการการทำงานในทุกภาคส่วน การปรับปรุงระบบการทำงานให้ทันสมัยด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม ทุกหน่วยงานร่วมมือกัน ช่วยกันแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นให้กับคนไทยทุกคน