“สมศักดิ์” ควง “สุริยะ-มนพร” ลุยเอ็กซเรย์โครงข่ายถนนสุรินทร์-ศรีสะเกษ
“สมศักดิ์” ควง “สุริยะ-มนพร” ลุยเอ็กซเรย์โครงข่ายถนนสุรินทร์-ศรีสะเกษ สั่ง “ทางหลวง” ลุยอัปเกรดความสะดวกสบาย ปลอดภัย ช่วยพี่น้องชาวอีสานใต้ในการเดินทางสัญจรเต็มที่ ตามนโยบาย “คมนาคม เพื่อความอุดมสุขของประชาชน”
วันนี้ (3 พ.ย.2566) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าโครงการสำคัญของกระทรวงคมนาคมในพื้นที่ จ.สุรินทร์ และศรีสะเกษ และลงพื้นที่ก่อสร้างโครงข่ายทางหลวง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการคมนาคมขนส่งในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน)
พร้อมด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายมนตรี เดชาสกุลสม รองปลัดกระทรวงคมนาคม และนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) ร่วมลงพื้นที่ โดยมี นายพิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้แทนภาคเอกชน และประชาชนร่วมให้การต้อนรับ
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นไปตามข้อสั่งการของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้รัฐมนตรีลงพื้นที่ เพื่อดูแลปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน โดยถือเป็นการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงาน พร้อมเร่งดำเนินการตามนโยบาย Quick Win ให้เห็นเป็นรูปธรรมเพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวว่า วัตถุประสงค์หลักของการตรวจราชการครั้งนี้ เพื่อติดตามความคืบหน้าและรับฟังบรรยายสรุปการดำเนินงานของโครงการสำคัญต่าง ๆ ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมโดยเฉพาะโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่กำลังดำเนินการ รวมถึงได้ลงพื้นที่โครงการสำคัญต่าง ๆ ดังนี้
1.รับฟังบรรยายสรุปการดำเนินงานโครงการในพื้นที่ จ.สุรินทร์ จำนวน 2 โครงการ คือ ทล.215 สายร้อยเอ็ด-อ.ท่าตูม ตอนบ้านหนองเม็ก-บ้านสาหร่าย และ ทล.2378 สาย อ.จอมพระ-บ้านไทรงาม ตอน 1 ของกรมทางหลวง (ทล.) และได้ทราบว่าประชาชนในพื้นที่มีความต้องการโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ บน ทล.226 ตอนลำน้ำชี-บ้านพม่า-ห้วยทับทัน และ ทล.2077 ตอนสุรินทร์-ลำดวน-สังขะ เนื่องจากสายทางดังกล่าวเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัดศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ซึ่งเป็นช่วงคอขวด ทำให้ผู้ใช้เส้นทางสัญจรเป็นจำนวนมากไม่ได้รับความสะดวกและปลอดภัยนั้น
ทล. ได้ดำเนินการขอรับจัดสรรงบประมาณในช่วงสายทางดังกล่าวแล้ว (อยู่ระหว่างการออกแบบของสำนักสำรวจและออกแบบ) อีกทั้งยังมีผิวจราจรชำรุดเสียหายบน ทล.2122 ตอน บักจรัง-มะโน เนื่องจากมีรถบรรทุกพืชผลทางการเกษตร เช่น อ้อย มันสำปะหลัง เป็นจำนวนมาก จึงได้ขอเสนอรับจัดสรรงบประมาณปี 2567 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และอำนวยความสะดวกความปลอดภัยของประชาชน พร้อมสอบถามสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ในพื้นที่เกี่ยวกับข้อเท็จจริง เพื่อจัดสรรงบประมาณในการบูรณะและเพิ่มประสิทธิภาพทางหลวง โดยจะเร่งรัดให้ ทล. ดำเนินการโครงการให้สำเร็จลุล่วงตามแผนเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ใช้ประโยชน์ มีทางหลวงที่มีประสิทธิภาพ สามารถเดินทางได้สะดวกรวดเร็วและปลอดภัยต่อไป
2.การลงพื้นที่ตรวจสอบและศึกษาการออกแบบโครงการขยายช่องจราจร ทล.2083 ตอนหัวช้าง-สะเดา และโครงการขยายช่องจราจร ทล.2076 ตอน หนองฮู-ส้มป่อยน้อย จ.ศรีสะเกษ ได้รับทราบจาก ทล. ว่าเส้นทางดังกล่าวมีผู้ใช้เส้นทางจำนวนมาก แต่ผิวจราจรชำรุดและแคบ ทำให้พี่น้องประชาชนชาวศรีสะเกษได้รับความเดือดร้อนจากการใช้เส้นทางสัญจร
อย่างไรก็ตาม ทล. ได้เข้าดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมเส้นทางให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานแล้วตามที่ได้รับจัดสรรงบประมาณปี 2566 เพื่อเป็นการบรรเทาเดือดร้อนให้กับประชาชนในเบื้องต้น แต่เพื่อให้การอำนวยความสะดวกและปลอดภัยให้ประชาชนในพื้นที่ที่ได้ใช้งานอย่างสมบูรณ์ จึงได้มาตรวจสอบพื้นที่ เพื่อจะได้พิจารณาจัดสรรงบประมาณมาดำเนินการ ให้โครงข่ายทางหลวงมีประสิทธิภาพและเป็นการอำนวยความสะดวกและปลอดภัยในพื้นที่ได้ใช้งานอย่างสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น โดยจะเร่งรัดให้ ทล. กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จโดยเร็วต่อไป
3.รับฟังความคืบหน้าและบรรยายสรุปการตรวจสอบและศึกษาการออกแบบโครงการก่อสร้างถนนวงแหวนด้านทิศเหนือ จ.ศรีสะเกษ พื้นที่โครงการขยายสี่ช่องจราจร ทล.221 อ.พยุห์-อ.ศรีรัตนะ-บรรจบ ทล.24 โครงการบูรณะ ทล.2412 บ้านเจี่ย อ.กันทรารมย์ เนื่องจากสายทางดังกล่าวมีผู้ใช้เส้นทางจำนวนมาก แต่ผิวจราจรแคบและชำรุดทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
ซึ่ง ทล. ได้เข้าดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานแล้วตามที่ได้รับจัดสรรงบประมาณปี 2566 เพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์ของประชาชนที่เดือดร้อนในเบื้องต้น แต่เพื่อให้การอำนวยความสะดวกและปลอดภัยให้ประชาชนในพื้นที่ที่ได้ใช้งานอย่างสมบูรณ์ จึงได้มาตรวจสอบพื้นที่พร้อมกับ สส. ในพื้นที่ เพื่อจัดสรรงบประมาณในการบูรณะและเพิ่มประสิทธิภาพทางหลวงให้ประชาชนได้รับความสะดวกปลอดภัยในการเดินทาง และลงพื้นที่อำเภอปรางค์กู่ เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านในพื้นที่ โดยจะเร่งหาแนวทางแก้ไขปัญหาโดยด่วนต่อไป
ด้าน นางมนพร เจริญศรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัด หากมีการปรับปรุงแก้ไขงบประมาณประจำปี 2567 ให้รีบดำเนินการโดยเร่งด่วน เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน และเพื่อให้เป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนด
ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ขอบคุณทุกส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่นและพี่น้องชาว จ.สุรินทร์ และศรีสะเกษ ที่ให้การต้อนรับ และแจ้งให้ทราบถึงปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในวันนี้ และตนจะเร่งรัดให้ ทล. และ ทช. ดำเนินการโครงการให้สำเร็จลุล่วงตามแผนการดำเนินการเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ใช้ประโยชน์ โดยมีทางหลวงที่มีประสิทธิภาพ สามารถเดินทางได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย เพื่อความอุดมสุขของประชาชนอย่างยั่งยืนต่อไป