“สุริยะ” สั่ง ขนส่งฯ คุมเข้มผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมาย หลังเกิดเหตุข่มขืนผู้โดยสารบนรถตู้
“สุริยะ” ห่วงใยกรณีข่าวเหตุการณ์ข่มขืนผู้โดยสารบนรถตู้ กำชับกรมการขนส่งทางบกเข้มงวดกับผู้ประกอบการขนส่งให้ปฏิบัติตามกฎหมายเคร่งครัด หากพบกระความผิดจริงให้ลงโทษขั้นสูงสุด ป้องกันการเกิดเหตุซ้ำซาก
วันนี้ (9 พ.ย.2566) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เร่งสั่งการกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ให้เร่งรัดดำเนินการตรวจสอบต่อผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะ จากกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวเด็กหญิงอายุ 13 ปี โดยสารรถตู้ จาก อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น ไปยังกรุงเทพมหานคร ระหว่างทางได้ถูกคนขับรถตู้ข่มขืน หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการกระทำผิดตามที่ตกเป็นข่าวจริง ได้สั่งการให้ ขบ. ดำเนินการพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถตามกฎหมายทันที ทั้งนี้ตนมีความห่วงใยในเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น พร้อมเร่งดำเนินการตรวจสอบเข้มงวดต่อผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะทั้งหมดให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ก่อให้เกิดเหตุการณ์ในลักณะนี้ขึ้นอีก
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวว่า กรมฯ ได้ดำเดินการตามข้อสั่งการของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยมอบหมายให้ สำนักงานขนส่งจังหวัดขอนแก่น ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถที่ใช้ในการรับจ้างขนส่งผู้โดยสารคันดังกล่าว และได้มีหนังสือเรียกตัวผู้ต้องสงสัยไปให้ถ้อยคำและชี้แจงข้อเท็จจริง เพื่อประกอบการพิจารณาการดำเนินการตามกฎหมายที่สำนักงานขนส่งจังหวัดขอนแก่น
รวมทั้งประสานข้อมูลการดำเนินคดีของเจ้าพนักงานสอบสวน ที่ สภ.แวงน้อย ขณะนี้ผู้ต้องสงสัยได้ติดต่อเข้าพบเจ้าพนักงานสอบสวนและให้การปฏิเสธ แต่เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ จึงได้นำรถที่ก่อเหตุไปให้ตรวจสอบหาหลักฐาน และทำการตรวจร่างกายผู้ต้องสงสัย ซึ่งกรมฯ จะติดตามความคืบหน้าผลการสอบสวน เพื่อรายงานต่อไป หากกระทำความผิดจริง จะสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับรถตามมาตรา 109 แห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ประกอบระเบียบกรมการขนส่งทางบก ว่าด้วยการพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก พ.ศ. 2564 เป็นเวลาไม่เกิน 180 วัน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถตามความร้ายแรงต่อไป
ทั้งนี้ กรมฯ ได้กำชับให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่ง กำกับควบคุมดูแลผู้ประจำรถไม่ให้กระทำการลักทรัพย์หรือทำร้ายร่างกายผู้โดยสารในระหว่างทำการขนส่ง หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดตามมาตรา 32 (6) แห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มีความผิดตามมาตรา 131 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท