PR News

เจ้าท่า!! ฝึกซ้อมแผนขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน @สมุทรสาคร

รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ร่วมบูรณาการฝึกซ้อมแผนขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน ซ้อมดับเพลิง และอพยพหนีไฟ จ.สมุทรสาคร

วันที่ 21 พ.ย.2566 นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านปลอดภัย พร้อมด้วย นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ในฐานะผู้บัญชาการ เข้าร่วมการฝึกซ้อมร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนในการจัดการสาธารณภัยให้เป็นไปตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2564-2570 ร่วมกับการดำเนินการแผนป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันและเคมีภัณฑ์แห่งชาติพร้อมเยี่ยมชมและบัญชาการเหตุการณ์การฝึกซ้อมแผนดับเพลิง กรณีเรือน้ำมันเกิดระเบิดไฟลุกไหม้ มีผู้ได้บาดเจ็บ และน้ำมันเตารั่วไหลลงแม่น้ำท่าจีน

โดยมีนายปรีชา เพชรเลิศ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 3 พร้อมด้วยเรือเอก อภิชิต ตัณฑสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรสาคร ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรสาคร และหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาครัฐและภาคเอกชน เข้าร่วมการฝึกซ้อม ณ บริษัท พี เอส พี สเปเชียลตี้ส์ จำกัด (มหาชน) จ.สมุทรสาคร

สำหรับการดำเนินการฝึกซ้อมในครั้งนี้ฯ ได้จำลองสถานการณ์ กรณีเรือน้ำมันเกิดระเบิดไฟลุกไหม้ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และน้ำมันเตารั่วไหลลงแม่น้ำท่าจีน โดยเรือบรรทุกผลิตภัณฑ์น้ำมันเตาจำนวน 2 ล้านลิตร ได้เข้าเทียบท่าเทียบเรือ 3A บริษัท PSP เพื่อสูบถ่ายน้ำมัน แต่ระบบไฟฟ้าของกว้านเกิดขัดข้อง และเกิดประกายไฟ ส่งผลให้เกิดระเบิดไฟลุกไหม้ภายในห้องเก็บของบริเวณหัวเรือ ที่มีสีและทินเนอร์ รวมอยู่ด้วย เป็นเหตุให้มีลูกเรือและผู้ปฏิบัติงานได้รับบาดเจ็บรวมทั้งสิ้น 12 คน ซึ่งในที่นี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรุนแรง 2 คน และไม่มีผู้เสียชีวิต

รวมถึงมีสถานการณ์แทรกซ้อนน้ำมันเตาปริมาณ 6,000 ลิตร ไหลลงแม่น้ำท่าจีน บริษัท PSP จึงขอยกระดับตามแผนของบริษัท ขอกำลังสนับสนุนจากหน่วยงานภายนอก เพื่อช่วยเหลือคนเจ็บที่อยู่บนเรือ และจัดการน้ำมันที่รั่วไหลลงสู่แม่น้ำท่าจีน ซึ่งมีหน่วยงานต่างๆ ที่เข้าร่วมบูรณาการในการจัดการสาธารณภัยนี้

โดยรองอธิบดีกรมเจ้าท่าและผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ ดำเนินการตามแผนป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันและเคมีภัณฑ์แห่งชาติ เพื่อควบคุมสถานการณ์ พร้อมเร่งให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บโดยด่วน และจัดเก็บคราบน้ำมันที่ไหลลงสู่แม่น้ำท่าจีนโดยเร็ว และเพื่อลดความเสียหายที่จะส่งผลกระทบ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด จนสถานการณ์ได้ยุติลง

ซึ่งหลังจากนั้นจะเป็นการตรวจสอบและติดตามสภาพสิ่งแวดล้อมโดยรวม เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในภายหลังต่อประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำท่าจีน จากนั้นเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจะดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุต่อไป ทั้งนี้ การซักซ้อมแนวทางการปฏิบัติบูรณาการการให้ความช่วยเหลือ จะสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เพื่อลดความเสียหายและความสูญเสียทั้งแก่ชีวิตและทรัพย์สินให้น้อยที่สุด

 

Loading

Back to top button