การบินไทย จับมือ OR ใช้น้ำมัน SAF เที่ยวบินนำร่อง
การบินไทย จับมือ OR ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) สำหรับเที่ยวบินนำร่อง พร้อมร่วมมือกันในอนาคต
วันนี้ (27 พ.ย.2566) นายทวิโรจน์ ทรงกำพล ประธานเจ้าหน้าที่สายกลยุทธ์องค์กร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ นายสุชาติ ระมาศ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ปตท.น้ำมัน และการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ด้านน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน สำหรับเที่ยวบินนำร่อง และความร่วมมือในอนาคต ระหว่าง บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) โดยมี นายทรงพล เทพนำโสมนัสส์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจเอนเนอร์ยี่โซลูชัน OR และนายรัฐ รักสำหรวจ ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินองค์กร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุม Multiverse อาคาร Enco ปตท. ถ.วิภาวดีรังสิต
นายทวิโรจน์ ทรงกำพล ประธานเจ้าหน้าที่สายกลยุทธ์องค์กร บริษัท การบินไทยฯ เปิดเผยว่า การบินไทย ร่วมมือกับ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ PTTOR ในการนำเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน : Sustainable Aviation Fuel (SAF) มาใช้กับเครื่องบินของการบินไทย เพื่อแสดงถึงการมีส่วนร่วม ส่งเสริม และสนับสนุน ให้ทุกภาคส่วนได้ตระหนักถึงความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม โดยช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอุตสาหกรรมการบินลงได้ รวมทั้ง เพื่อกระตุ้นให้เกิดความยั่งยืนในด้านการผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพ เพื่อนำมาใช้ทดแทนน้ำมันอากาศยานที่ผลิตจากซากฟอสซิลในปัจจุบัน โดยเชื้อเพลิง SAF สามารถผลิตขึ้นได้จากวัตถุดิบหลายชนิด เช่น used cooking oil , Ethanol จากชานอ้อย และขยะ เป็นต้น
โดยจุดเด่นของเชื้อเพลิง SAF คือ การมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตลอดวงจรชีวิตน้อยกว่าเชื้อเพลิงอากาศยานโดยทั่วไป และสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้สูงถึง 80 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงโดยปกติ และด้วยเหตุนี้ หลายธุรกิจและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการขนส่งทางอากาศ จึงหันมาให้ความสนใจในเชื้อเพลิง SAF และพยายามผลักดันให้มีการใช้เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากสามารถนำมาใช้งานโดยผ่านการผสมในน้ำมันเครื่องบินที่ทำจากฟอสซิสในปัจจุบัน (Jet A1) ได้ทันที โดยไม่ต้องมีการปรับปรุงเครื่องยนต์ให้รองรับการใช้งาน อีกทั้ง เชื้อเพลิง SAF มีการกำหนดมาตรฐานการผลิตตามแต่ละประเภทของวัตถุดิบเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
การบินไทยมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนความคิดริเริ่มในการช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อลดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ภายในปี พ.ศ. 2593 หรือ ค.ศ. 2050 และเป็นการปฏิบัติตามมาตรการขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization: ICAO) และสมาคมการบินระหว่างประเทศ (International Air Transport Association: IATA) ทั้งยังสอดคล้องกับที่สหภาพยุโรปกำหนดสัดส่วนการผสมเชื้อเพลิง SAF ในน้ำมันอากาศยานที่จะทำการบินออกจากสนามบินในสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
นายสุชาติ ระมาศ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่าง OR และการบินไทยในครั้งนี้ เป็นการนำน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel : SAF) ไปใช้ในอุตสาหกรรมการบินสำหรับเที่ยวบินนำร่องของการบินไทย ซึ่งจะมีพิธีเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน ณ ท่าอากาศยานภูเก็ตในเดือนธันวาคมนี้ อีกทั้งยังสอดคล้องกับแนวทางการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนของ OR หรือ OR SDG โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน “G” หรือ “GREEN” ที่มุ่งสร้างสิ่งแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ (Healthy Environment) เพื่อตอบโจทย์การตั้งเป้าที่จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon-Neutrality) ภายในปี 2030
ประกอบกับการที่ OR ในฐานะหนึ่งในสมาชิกที่ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในการศึกษา พัฒนาและลงทุนผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel : SAF) ระหว่างกลุ่ม ปตท. ร่วมกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (Thai Oil), บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (GC) และ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (IRPC) ที่ผ่านมาในวันที่ 9 พ.ย.2565 ที่มีความตั้งใจเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานเพื่อดำเนินธุรกิจที่เติบโตควบคู่กับความยั่งยืนของโลก มุ่งมั่นลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon) ภายในปี 2050