Transport

ขนส่งฯ ออกประกาศกำหนดวิธีการตรวจและเกณฑ์ค่าก๊าซ CO/HC สำหรับการตรวจสภาพรถยนต์ เริ่มบังคับวันนี้

ขนส่งฯ รับลูก “สุรพงษ์” รมช.คมนาคม ยกระดับมาตรการป้องกัน-ลดมลพิษจากฝุ่น PM 2.5 จากภาคคมนาคมขนส่ง กำหนดวิธีการตรวจและเกณฑ์ค่าก๊าซ CO/HC สำหรับการตรวจสภาพรถยนต์ เริ่มมีผลใช้บังคับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป 

วันนี้ (28 พ.ย.2566) ตามที่ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบนโยบายให้กรมการขนส่งทางบกเร่งรัดให้มีการกำหนดมาตรการป้องกันและลดมลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จากภาคคมนาคมขนส่ง รวมถึงให้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 และมลพิษทางอากาศ

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า ได้ออกประกาศกรมฯ เรื่อง กำหนดเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบค่าก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์และก๊าซไฮโดรคาร์บอนจากท่อไอเสียของรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ชนิดเผาไหม้ภายในที่มีการจุดระเบิดด้วยประกายไฟ พ.ศ. 2566 เพื่อปรับปรุงข้อกำหนดวิธีการตรวจและเกณฑ์ค่าก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) และก๊าซไฮโดรคาร์บอน (HC) สำหรับการตรวจสภาพรถยนต์ให้มีเกณฑ์ที่ปลอดภัยมากขึ้นและลดการปล่อยมลพิษ รวมถึงให้สอดคล้องกับเกณฑ์มาตรฐานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

โดยประกาศฯ มีสาระสำคัญในการกำหนดให้รถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ เช่น รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน ที่ใช้รับจ้างระหว่างจังหวัด รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน (แท็กซี่) รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ฯลฯ ที่ใช้น้ำมันปิโตรเลียมหรือก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง เมื่อเข้ารับการตรวจสภาพกับกรมการขนส่งทางบก หรือสถานตรวจสภาพรถ (ตรอ.) ก่อนชำระภาษีประจำปี จะต้องมีค่าก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) และก๊าซไฮโดรคาร์บอน (HC) ตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยผ่านวิธีการตรวจวัดค่าก๊าซ CO/HC ขณะเครื่องยนต์เดินเบาที่รอบต่ำ (Normal Idle) และวิธีการตรวจวัดค่าก๊าซ CO/HC ขณะเครื่องยนต์เดินเบาที่รอบสูง (High Idle) ตามระยะเวลาและประเภทรถที่จดทะเบียน ทั้งนี้ กรมฯ สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ ได้ประสานสถานตรวจสภาพรถ (ตรอ.) ให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว โดยประกาศฯ มีผลใช้บังคับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

กรมฯ แนะนำให้เจ้าของรถตรวจเช็กและดูแลรักษารถยนต์เบื้องต้นเพื่อลดการปล่อยมลพิษ ดังนี้

1.ให้ทำความสะอาด หรือเปลี่ยนกรองอากาศใหม่

2.เปลี่ยนกรองน้ำมันเชื้อเพลิงตามระยะเวลา

3.เปลี่ยนน้ำมันเครื่องและกรองน้ำมันเครื่องตามระยะเวลา

4.ปรับตั้งปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงตั้งจังหวะการฉีดเชื้อเพลิงให้ถูกต้อง

5.ตรวจเช็กและปรับตั้งหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงให้เป็นละออง และมีแรงดัน เป็นต้น

ทั้งนี้ กรมฯ ดำเนินการเชิงรุกในการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ เช่น จัดผู้ตรวจการออกตรวจวัดควันดำจากท่อไอเสียของรถบรรทุกและรถโดยสารบนถนนสายหลักและสายรองทั่วประเทศ ตามมาตรฐานการตรวจวัดค่าควันดำจากท่อไอเสียของรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกและกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ สนับสนุนประชาชนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าผ่านมาตรการทางภาษีประจำปี รวมถึงบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐในการกำหนดนโยบายในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เพื่อให้การแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศทุกมิติอย่างเป็นรูปธรรม

Loading

Back to top button