Transport

เริ่มวันนี้!! “สุรพงษ์” คิกออฟ เปิดระบบบัตร EMV ค่าโดยสารเชื่อมรถไฟฟ้าสายสีแดง-ม่วง สูงสุด 20 บาทตลอดสาย

เริ่มวันนี้!! “สุรพงษ์” รมช.คมนาคม คิกออฟ เปิดระบบบัตร EMV ค่าโดยสารเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีแดง-ม่วง สูงสุด 20 บาทตลอดสาย พร้อมลงพื้นที่ ติดตามความคืบหน้าเปิดเดินรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-หัวหิน ผลงานคืบหน้า 97% ประเดิมเปิดใช้งานระยะแรก 15 ธ.ค.นี้

วันนี้ (30 พ.ย.2566) นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ทดสอบระบบการเดินทางข้ามระบบโดยใช้บัตร EMV contactless เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางรถไฟฟ้าสายสีแดง-รถไฟฟ้าสายสีม่วง ณ สถานีบางซ่อน ในอัตราค่าโดยสารรวมกันสูงสุด 20 บาทตลอดสาย พร้อมทั้งยังได้ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินโครงการรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-หัวหิน จ.ราชบุรี เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการได้ภายในปี 2567 โดยมีนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และผู้บริหาร รฟท. ให้การต้อนรับ

นายสุรพงษ์ เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ทดสอบการเดินทางข้ามระบบโดยใช้บัตร EMV contactless เพื่อเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีแดง-รถไฟฟ้าสายสีม่วง เป็นการดำเนินการตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 ต.ค.2566 ที่ได้อนุมัติให้กระทรวงคมนาคม ดำเนินมาตรการเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาท เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางแก่ประชาชน ซึ่งในระยะแรกได้เริ่มดำเนินการในส่วนของรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์-สถานีรังสิต และ ช่วงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์-สถานีตลิ่งชัน และรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม หรือ MRT สายสีม่วง ช่วงคลองบางไผ่-เตาปูน สูงสุดสายละ 20 บาท

ดังนั้นเพื่อเป็นการต่อยอดนโยบาย Quick Win “คมนาคม เพื่อความอุดมสุขของประชาชน” จึงได้เพิ่มการอำนวยความสะดวก และลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางแก่ประชาชน โดยตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป จะเริ่มคิดค่าโดยสารให้แก่ผู้ที่เดินทางเชื่อมต่อระหว่างรถไฟชานเมืองสายสีแดง กับรถไฟฟ้าสายสีม่วง ที่สถานีบางซ่อน และชำระค่าโดยสารผ่านทางบัตร EMV (Europay, MasterCard, VISA) หรือบัตรเครดิต และบัตรเดบิตที่เข้าร่วมให้คิดค่าโดยสารรวมกันสูงสุดไม่เกิน 20 บาทต่อเที่ยว

จากนั้นในวันเดียวกัน ได้เดินทางลงพื้นที่ ติดตามความคืบหน้าการดำเนินโครงการเปิดเดินรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-หัวหิน ซึ่งเป็นโครงการรถไฟทางคู่สายสำคัญ ของเส้นทางรถไฟสายใต้ โดยปัจจุบันภาพรวมการดำเนินงานการก่อสร้างงานโยธา มีความคืบหน้ากว่า 97% เป็นไปตามเป้าหมายที่ได้มอบนโยบายให้ รฟท. เร่งรัดก่อสร้างโครงการ และสามารถเปิดใช้งานเปิดใช้ทางคู่ในช่วงแรก ระหว่างสถานีบ้านคูบัว จ.ราชบุรี ถึงสถานีสะพลี จ.ชุมพร รวมระยะทาง 348 กิโลเมตร ได้ในวันที่ 15 ธ.ค.2566 ส่วนช่วงที่สอง ระหว่างสถานีนครปฐม-บ้านคูบัว มีแผนที่จะเปิดใช้ทางคู่ประมาณช่วงเดือนเม.ย.2567 ขณะที่งานสะพานกลับรถ (U-Turn)/สะพานข้ามทางรถไฟ (Overpass) ได้มีการเปิดใช้งานและยกเลิกทางข้ามเสมอระดับทางรถไฟ จำนวน 24 แห่งจากทั้งหมด 30 แห่ง ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาการเกิดอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดเสมอระดับทางรถไฟ-รถยนต์ให้กับพี่น้องประชาชนได้อีกทางหนึ่งด้วย

ทั้งนี้ยังมอบนโยบายให้ รฟท. เร่งรัดการติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่าง และเครื่องสูบน้ำบริเวณอุโมงค์ทางลอดใต้ทางรถไฟในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลหนองกบ ปากแรต นครชุมน์ และหลังวัดดอนตูม โดยขณะนี้ รฟท. ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำชั่วคราว ในระหว่างที่รอการติดตั้งเครื่องปั๊มน้ำถาวร ที่ถูกลักลอบขโมยไป โดยจะติดตั้งเครื่องปั๊มน้ำถาวรทั้งหมด 4 แห่ง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค.2566

จากนั้นได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมสถานีรถไฟชุมทางหนองปลาดุก เพื่อรับฟังผลการดำเนินงาน เรื่องการใช้สิทธิเหนือพื้นดินในโครงการรถไฟทางคู่ช่วงพื้นที่ จ.ราชบุรี และรถไฟสายธนบุรี-น้ำตก (กาญจนบุรี) ซึ่งปัจจุบันได้มีหน่วยงานราชการใน จ.ราชบุรี ขอใช้พื้นที่ของ รฟท. จัดทำพื้นที่สาธารณะประโยชน์ อาทิ สวนหย่อม ถนนคูคลอง ทางระบายน้ำ ในย่านสถานีรถไฟ คลองส่งน้ำเพื่อการเกษตร จำนวน 27 แห่ง จึงได้มอบให้ รฟท. เร่งรัดดำเนินการในด้านต่างๆ ให้แล้วเสร็จ

ทั้งนี้การพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่สายใต้ จะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2567 ซึ่งนับเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยเปิดโอกาสทางเศรษฐกิจ เชื่อมโยงการเจริญเติบโตสู่ภูมิภาค ตลอดจนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย และเป็นการพลิกโฉมการคมนาคมขนส่งระบบรางของประเทศครั้งสำคัญ ให้กลายเป็นศูนย์กลางด้านคมนาคมของภูมิภาคอาเซียนในอนาคตอันใกล้

 

Loading

Back to top button