Transport

สวยสุดๆ!! วิ่งฟินถนนเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ 514 กม. จ่อศึกษาเพิ่ม “เส้นทางสงขลา-ปัตตานี-นราธิวาส” 300 กม.

กรมทางหลวงชนบท ปิดจ๊อบสร้างถนนเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ 514 กม. เดินหน้าศึกษาความเหมาะสมแนวเส้นทางสงขลา-ปัตตานี-นราธิวาสในปี 67 วางแผนปี 68 เล็งพัฒนาโครงข่ายสายทางตามแนวเทือกเขาตะนาวศรี ตั้งแต่ อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี-อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ 350 กม. เพิ่มความสมบูรณ์ ส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยวยั่งยืน

วันนี้ (14 ธ.ค.2566) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ระบุว่า ดำเนินโครงการก่อสร้างถนนเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ (Thailand Riviera) เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวถนนเลียบชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกของอ่าวไทยให้เป็นถนนท่องเที่ยวระดับสากลในอนาคต พร้อมเพิ่มศักยภาพในการเดินทางให้ประชาชนสัญจรได้อย่างสะดวกปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ควบคู่กับการส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยวภายในประเทศอย่างยั่งยืน

ทช. ได้ดำเนินการตามที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในโครงการพัฒนาการท่องเที่ยวถนนเลียบชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกของอ่าวไทย โดยครอบคลุมพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และระนอง เพื่อพัฒนาโครงข่ายถนนดังกล่าวให้มีความต่อเนื่องเป็นถนนท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลระดับสากล ส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรม ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้รับความสะดวกปลอดภัยในการเดินทาง ตามนโยบายของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

โดย ทช. ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างถนนเลียบชายฝั่งทะเลฯ มาตั้งแต่ปี 2552 ถึงปัจจุบัน โดยได้ก่อสร้างไปแล้วเป็นระยะทาง 514.616 กิโลเมตร ทั้งนี้ เพื่อให้โครงข่ายถนนเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้มีความสมบูรณ์ต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น

ในปีงบประมาณ 2567 ทช. มีแผนที่จะดำเนินการศึกษาความเหมาะสมแนวเส้นทางท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ ช่วง สงขลา-ปัตตานี-นราธิวาส ระยะทางรวม ประมาณ 300 กิโลเมตร

DCIM100MEDIADJI_0103.JPG

นอกจากนี้ ในปี 2568 ทช. มีแผนที่จะดำเนินการพัฒนาโครงข่ายสายทางตามแนวเทือกเขาตะนาวศรีครอบคลุมพื้นที่ ตั้งแต่ อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ไปสิ้นสุดที่ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทางรวมประมาณ 350 กิโลเมตร

โดยร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในการจัดทำแผนพัฒนาโครงการถนน เพื่อการท่องเที่ยว “ตะนาวศรีคีรีพัฒน์” ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการ Thailand Riviera ของ ทช. เพื่อเพิ่มศักยภาพโครงข่ายสายทางในพื้นที่ที่มีอยู่ในปัจจุบัน และพัฒนาเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่มีความสะดวกปลอดภัยเป็นไปตามมาตรฐาน รวมทั้งยังช่วยแบ่งเบาการจราจรบนถนนสายหลักในช่วงเทศกาล สามารถใช้เป็นเส้นทางเลี่ยงถนนเพชรเกษม (ทล.4) ได้อีกทางหนึ่งด้วย

ซึ่งการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวนี้อยู่ภายใต้กรอบของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (2561-2580) สอดคล้องกับวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์การพัฒนาของ จ.เพชรบุรี และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตลอดจนเป็นไปตามยุทธศาสตร์การพัฒนาของกรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม อีกด้วย

Loading

Back to top button