“สุรพงษ์” เร่งบริหารจัดการพื้นที่จอดรถสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ลาดกระบัง เพิ่มความสะดวก-ปลอดภัยแก่ประชาชนผู้ใช้บริการ หลังพบผู้ใช้รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ลาดกระบัง มากถึง 10,000 คนต่อวัน ขณะที่พื้นที่ที่จอดรถได้เพียง 11 คัน
วันนี้ (20 ธ.ค.2566) นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายสุชีพ สุขสว่าง รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคม ผู้บริหาร รฟท. กรมทางหลวง (ทล.) และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมพื้นที่สถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ลาดกระบัง เพื่ออำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัยแก่ประชาชนผู้ใช้บริการ
นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ลาดกระบังครั้งนี้ เพื่อเป็นการต่อยอดนโยบาย Quick Win “คมนาคม เพื่อความอุดมสุขของประชาชน” ในการเพิ่มการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ลาดกระบัง ซึ่งอยู่ในความดูแลของกรมทางหลวงและการรถไฟฯ ซึ่งที่มาได้รับทราบเรื่องข้อจำกัดในพื้นที่จอดรถ รถประจำทางจอดไม่เป็นระเบียบ ทางเดินเป็นหลุมเป็นบ่อ และระบบไฟฟ้าส่องสว่างไม่ทั่วถึง
ทั้งนี้จากการรับฟังการบรรยายการจัดระเบียบจราจรในพื้นที่พบว่า ในส่วนเรื่องที่จอดรถ โครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ (พญาไท-สุวรรณภูมิ) ที่ผ่านมา รฟท. ได้มอบสิทธิการบริหารให้กับ บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินไปแล้ว จากนั้นทาง บริษัท เอเชีย เอรา วัน ได้มีการปรับปรุงพื้นที่ด้านใต้บริเวณอาคารสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ลาดกระบัง และไม่ได้อนุญาตให้ประชาชนนำรถยนต์เข้ามาจอดในบริเวณดังกล่าว เนื่องจากมีสถานที่จอดรถไม่เพียงพอ เพราะมีผู้ใช้รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ลาดกระบัง มากถึง 10,000 คนต่อวัน ขณะที่พื้นที่ที่จอดรถได้เพียง 11 คัน
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา รฟท. ได้พยายาม อำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการ โดยได้ประสานกรมทางหลวง เพื่อขอใช้พื้นที่จอดรถให้บริการแก่ผู้โดยสาร และประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งกรมทางหลวงได้อนุญาตให้นำรถยนต์และจักรยานยนต์ เข้ามาจอดชั่วคราวในบริเวณลานด้านข้างสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ลาดกระบัง บริเวณฝั่งถนนคู่ขนาน ทล. หมายเลข 7 แต่ต่อมาปรากฎว่า มีประชาชนที่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียงนำรถยนต์และรถจักรยานยนต์มาจอดเป็นจำนวนมาก จนก่อให้เกิดความไม่เป็นระเบียบและเกิดปัญหาจราจรติดขัดบริเวณทางเข้าออกสถานีตามมา
ดังนั้น ภายหลังจากรับฟังคำบรรยาย รวมทั้งข้อเสนอแนะจากประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว จึงมีนโยบายให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งนำปัญหาดังกล่าวไปพูดคุยหารือกัน ทั้งในส่วนของ รฟท. กรมทางหลวง และบริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด เพื่อหาทางออกร่วมกันในการจัดระเบียบพื้นที่ รวมทั้งจัดหาสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับจอดรถ ตลอดจนให้เร่งติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่าง เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาการจราจร และอำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัยแก่ผู้ใช้บริการ และประชาชนพื้นที่โดยรอบโดยเร็วที่สุด
