รฟท. เปิดหวูด ขบวนรถไฟตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นแบบเคลื่อนที่ ประเดิมขนส่งผลผลิตมูลนิธิโครงการหลวง
รฟท. เปิดหวูด ขบวนรถไฟตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นแบบเคลื่อนที่ประสิทธิภาพสูง ประเดิมขนส่งผลผลิตทางการเกษตรของมูลนิธิโครงการหลวง จากภาคเหนือสู่ภาคใต้ ขยายศักยภาพการขนส่งทางรางแบบไร้รอยต่อ
วันนี้ (25 ม.ค.2567) พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนรถไฟ ตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นแบบเคลื่อนที่ประสิทธิภาพสูงเพื่อใช้ขนส่งผลิตผลโครงการหลวง จากภาคเหนือสู่ภาคใต้ โดยมีนายอวิรุทธ์ ทองเนตร รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) รองศาสตราจารย์ ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน และคณะผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมพิธีที่สถานีรถไฟลำพูน จ.ลำพูน
นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ รฟท. เปิดเผยว่า ตามที่ รฟท. ร่วมมือกับ มูลนิธิโครงการหลวง และศูนย์วิจัยนวัตกรรมโลจิสติกส์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ในการพัฒนายกระดับระบบขนส่งโลจิสติกส์ผลิตผลทางการเกษตรโครงการหลวงให้มีประสิทธิภาพ ผ่านขบวนรถไฟตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นแบบเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพสูง ขณะนี้ รฟท. มีความพร้อมที่จะเริ่มขนส่งผลผลิตทางการเกษตรของมูลนิธิโครงการหลวงเป็นขบวนแรก ในวันนี้ (25 ม.ค.2567) โดยเริ่มจากสถานีลำพูน จ.ลำพูน ไปยังสถานีบางกล่ำ จ.สงขลา จำนวน 1 ตู้คอนเทนเนอร์ น้ำหนัก 8 ตัน ซึ่งมีผลิตผลทางการเกษตร อาทิ ผัก ผลไม้ ดอกไม้
ทั้งนี้ การขนส่งด้วยขบวนรถไฟตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นแบบเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพสูง ถือเป็นนวัตกรรมสมัยใหม่ สำหรับใช้ในการจัดเก็บและขนส่งผลิตผลทางการเกษตรตามโมเดลเศรษฐกิจแบบหมุนเวียน ซึ่งจะช่วยลดการเน่าเสีย ลดต้นทุนการขนส่ง และยืดอายุของผลิตผลทางการเกษตร ที่สำคัญยังสามารถติดตาม ตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์แบบเรียลไทม์ จึงถือเป็นความได้เปรียบทางการแข่งขันในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ นำมาสู่โอกาสการขยายตลาดของมูลนิธิในอนาคต ตลอดจนช่วยยกระดับการขนส่งผลิตผลทางการเกษตรทางรางให้มีประสิทธิภาพ ต้นทุนต่ำ ปลอดภัย ประหยัดพลังงาน
นายเอกรัช กล่าวว่า สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าทางรถไฟ ที่สามารถเชื่อมโยงจากแหล่งวัตถุดิบไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ ทั่วประเทศสอดคล้องกับนโยบายของนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่า รฟท. ที่สนับสนุนให้ รฟท. เข้าไปมีส่วนร่วมในการส่งเสริมเศรษฐกิจภายในประเทศ กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ให้ประชาชนเข้าถึงสินค้าที่มีคุณภาพได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ตลอดจนช่วยเพิ่มขีดความสามารถการขนส่งให้กับภาคการเกษตร รองรับปริมาณการขนส่งสินค้า ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศ
ท้ายนี้ รฟท. ยังมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาโครงข่าย เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางรางอย่างต่อเนื่อง เพื่อเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งผู้โดยสารและสินค้า พร้อมกับขยายการให้บริการขนส่งสินค้าหลายประเภทในหลายเส้นทาง ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาคให้เติบโต ยกระดับระบบการขนส่งทางรางของไทย สู่การเป็นศูนย์กลางระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพของภูมิภาคต่อไป