ลุยกิจกรรมปรับภูมิทัศน์ป้ายหยุดรถ “กะแด๊ะ“ @นราธิวาส
รฟท. จับมือ ประชาชน คณะครู นักเรียน โรงเรียนบ้านสะโล @นราธิวาส ทำกิจกรรมเพื่อสังคมปรับปรุงภูมิทัศน์ป้ายหยุดรถกะแด๊ะ เกิดความสะอาด เรียบร้อย สวยงาม
เมื่อวันที่ 15 ก.พ.2567 นายแวมาฮามะนูร์ เจ๊ะกายอ หัวหน้ากองปฏิบัติการจังหวัดชายแดนภาคใต้ รักษาการแทน ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดชายแดนภาคใต้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นำเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดชายแดนภาคใต้ และโรงรถจักรหาดใหญ่ รฟท. ร่วมกับประชาชนในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ประกอบด้วย คณะครู อาจารย์ นักเรียนจากโรงเรียนบ้านสะโล ผู้นำทางศาสนา ผู้นำชุมชน ฝ่ายความมั่นคง และพี่น้องประชาชนในละแวกใกล้เคียง ดำเนินกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อสังคม ในการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณป้ายหยุดรถกะแด๊ะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นป้ายหยุดรถไฟที่ประชาชนในพื้นที่ใช้บริการขึ้นลง ให้มีความสะดวก เรียบร้อย ปลอดภัยต่อผู้ใช้บริการ
นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า
การจัดทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม ระหว่าง รฟท. และพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ 15 ก.พ.2567 ที่ผ่านมานี้ รฟท. ได้ร่วมกับพี่น้องประชาชน คณะครู อาจารย์ นักเรียนโรงเรียนบ้านสะโล พร้อมด้วยผู้นำทางศาสนา เหล่าทหาร และชาวบ้านในพื้นที่ ช่วยกันทำกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อสังคม โดยได้ปรับปรุงภูมิทัศน์ ตัดหญ้า เก็บขยะมูลฝอย ทาสีบริเวณพื้นที่โดยรอบป้ายหยุดรถกะแด๊ะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นป้ายหยุดรถไฟที่ประชาชนในพื้นที่ ใช้บริการขึ้นลงเป็นประจำ ให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม
สอดคล้องกับนโยบายของนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่า รฟท. ที่ให้ความสำคัญต่อการทำกิจกรรมมวลชนสัมพันธ์ร่วมกับพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด โดยเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนอย่างใกล้ชิด เพื่อนำข้อคิดเห็นมุมมองต่างๆ มาปรับปรุงการให้บริการที่ดียิ่งขึ้น ควบคู่กับการจัดกิจกรรมช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการจัดกิจกรรมส่งมอบความสุข นำคณะนักเรียนพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ เดินทางทัศนศึกษาเส้นทางรถไฟ การมอบถุงยังชีพ ชุดห่วงใย ให้กับพี่น้องประชาชน ผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชนในพื้นที่ เป็นต้น
“ภาพแห่งความร่วมแรงร่วมใจ ระหว่างชุมชนกับการรถไฟฯ นับเป็นการแสดงให้เห็นถึงบทบาทของการรถไฟฯ ที่มีความมุ่งมั่นดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม และยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อมีเป้าหมายให้ประชาชนคนไทยทุกคน ได้มีโอกาสเข้าถึงการใช้บริการรถไฟได้อย่างทั่วถึง เท่าเทียมกันทุกๆคน”