“สุริยะ” เผย “ฝรั่งเศส” แสดงความสนใจรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน-โครงการรถไฟฟ้าเส้นทางต่าง ๆ-รถไฟทางคู่-แลนด์บริดจ์ หนุนใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ลดการปล่อยคาร์บอนภาคขนส่งยั่งยืน
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้ H.E. Mr. Jean-Claude Poimboeuf เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย และคณะเข้าพบ เพื่อแนะนำตัวในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง พร้อมทั้งได้หารือเกี่ยวกับนโยบายด้านคมนาคมขนส่งของรัฐบาลไทย แนวทางการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าและการลดการปล่อยคาร์บอนในภาคขนส่ง และความร่วมมือด้านการขนส่งที่มีระหว่างกัน โดยมี นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการหารือฯ เมื่อวันที่ 23 ก.พ.2567 ณ ห้องรับรองกระทรวงคมนาคม
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ได้กล่าวแสดงความยินดีกับ H.E. Mr. Jean-Claude Poimboeuf ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย และมีความยินดีที่ปีนี้เป็นปีครบรอบ 168 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ฝรั่งเศส พร้อมทั้งการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ครั้งที่ 33 ในเดือน ก.ค.2567
และกล่าวว่า กระทรวงคมนาคมมีนโยบายมุ่งเน้นเปลี่ยนการขนส่งจากทางถนนเป็นทางรางมากยิ่งขึ้น เพื่อพัฒนาให้ไทยเป็นประเทศที่ใช้ระบบรางเป็นหลักในการเดินทาง ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด ปัญหามลภาวะ ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 และเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยเฉพาะเรื่องการเดินทางให้มีความสะดวก รวดเร็ว คุ้มค่า และปลอดภัยยิ่งขึ้น
โดยมีการจัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) (สทร.) เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมระบบรางของไทยอย่างยั่งยืน และส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรด้านระบบรางในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีผ่านการจัด Workshop และการฝึกอบรมจากผู้เชี่ยวชาญด้านระบบรางจากนานาประเทศรวมทั้งฝรั่งเศส เพื่อร่วมกันส่งเสริมอุตสาหกรรมระบบการขนส่งทางรางของประเทศไทยให้มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย
ทั้งนี้ ได้หารือในประเด็นสำคัญเกี่ยวกับแนวทางและนโยบายการส่งเสริมความร่วมมือด้านคมนาคมขนส่ง รวมถึงโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางบก น้ำ ราง และอากาศ ที่ฝรั่งเศสให้ความสนใจ อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน แผนพัฒนาระบบขนส่งมวลชนในเมือง สถานะโครงการรถไฟฟ้าเส้นทางต่าง ๆ โครงการรถไฟทางคู่ โครงการแลนด์บริดจ์ แนวทางการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าและการลดการปล่อยคาร์บอนในภาคขนส่งอย่างยั่งยืน รวมถึงแนะนำผู้เชี่ยวชาญฝรั่งเศสที่มาทำงานร่วมกับ สทร. เป็นระยะเวลา 2 ปี เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้งานด้านการวิจัยและพัฒนา งานด้านการพัฒนายุทธศาสตร์ระบบราง และงานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานของไทยและฝรั่งเศส
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า รัฐบาลไทยตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางทางการบินในภูมิภาค (Aviation Hub) ดังนั้น หน่วยงานด้านอากาศจะต้องมีโครงการเพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น โดยมีเป้าหมายโครงการรองรับการเป็น Aviation Hub จำนวน 46 โครงการ โครงการพัฒนาท่าอากาศยานระยะเร่งด่วนมี จำนวน 8 โครงการ รวมถึงแผนการก่อสร้างท่าอากาศยานแห่งใหม่และปรับปรุงท่าอากาศยานเดิมทั่วประเทศ เช่น ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานเชียงใหม่ เป็นต้น
