Transport

เริ่มวันนี้!! ปรับทิศทางสัญจรถนนประชาธิปก-สะพานพระพุทธยอดฟ้า ขุดเจาะอุโมงค์ สถานีสะพานพุทธ

รฟม. จับมือ บช.น. คลอดมาตรการปรับทิศทางการสัญจรบนถนนประชาธิปก และสะพานพระพุทธยอดฟ้า เพิ่มประสิทธิภาพการระบายรถฝั่งขาออก ในช่วงเวลาเร่งด่วนทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 16.00-19.00 น. เริ่มวันนี้ (25 มี.ค.67) เป็นต้นไป เพื่อดำเนินงานขุดเจาะอุโมงค์ สถานีสะพานพุทธ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้

วันนี้ (25 มี.ค.2567) พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พร้อมด้วย นายกิตติ เอกวัลลภ ผู้ช่วยผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะผู้อำนวยการโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ร่วมแถลงข่าวมาตรการปรับทิศทางการสัญจร ช่วงเวลาเร่งด่วน (วันจันทร์-วันศุกร์ ระหว่างเวลา 16.00-19.00 น.) บนถนนประชาธิปก และสะพานพระพุทธยอดฟ้า ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 25 มี.ค.2567 เป็นต้นไป เพื่อดำเนินงานขุดเจาะอุโมงค์ สถานีสะพานพุทธฯ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก)

นายกิตติ เอกวัลลภ ผู้ช่วยผู้ว่าการ รฟม. ในฐานะผู้อำนวยการโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) กล่าวว่า ปัจจุบันโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงฯ สัญญาที่ 3 ช่วงผ่านฟ้า-สะพานพุทธ อยู่ระหว่างเตรียมงานขุดเจาะอุโมงค์ บริเวณสถานีสะพานพุทธฯ ซึ่งการดำเนินงานขุดเจาะอุโมงค์จะต้องใช้ระยะเวลารวมประมาณ 18 เดือน คาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงปลายปี 2569 โดยตั้งแต่วันศุกร์ที่ 22 มี.ค.2567 ที่ผ่านมา ได้เริ่มปิดเบี่ยงจราจรบริเวณทางลงสะพานพระปกเกล้า ถึง อนุสรณ์สถานงานสมโภช 100 ปี (วงเวียนเล็ก) 1 ช่องจราจร ตลอด 24 ชั่วโมง มีผลให้ผู้สัญจรผ่านถนนประชาธิปก ฝั่งขาออก สามารถสัญจรได้เพียง 2 ช่องจราจร แต่เนื่องจากสภาพพื้นที่ก่อสร้างมีสภาพการจราจรที่ค่อนข้างหนาแน่น และมีชุมชน โรงเรียนโดยรอบ

รฟม. และผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธา จึงได้ประสานขอความร่วมมือจากตำรวจนครบาลและสถานีตำรวจในพื้นที่ เพื่อหามาตรการร่วมกันในการลดผลกระทบต่อผู้ใช้เส้นทางตลอดระยะเวลาการดำเนินงานขุดเจาะอุโมงค์บริเวณดังกล่าว และได้มีข้อสรุปร่วมกันที่จะทดลองใช้มาตรการปรับทิศทางการสัญจรของสะพานพระพุทธยอดฟ้า ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 25 มี.ค.2567-วันพฤหัสบดีที่ 30 พ.ค.2567 และทางตำรวจจราจรในพื้นที่จะติดตามประเมินประสิทธิภาพในการระบายรถ เพื่อพิจารณาขยายระยะเวลาการใช้มาตรการปรับทิศทางการสัญจรฯ ออกไป จนครอบคลุมระยะเวลาการดำเนินงานขุดเจาะอุโมงค์ทั้งหมด หรือพิจารณาปรับเปลี่ยนไปใช้มาตรการอื่นๆ ที่จะสามารถลดผลกระทบแก่ประชาชนผู้สัญจรทางถนนได้ดีที่สุดต่อไป

พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า รอง ผบช.น. และ พ.ต.ท. กันตพัฒน์ อื้อศรีวงศ์ รอง ผกก.จร. สน.บุปผาราม กล่าวว่า รฟม. และผู้รับจ้างฯ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงฯ ได้นำเสนอแผนการจัดจราจร และหารือแนวทางการปิดเบี่ยงจราจรกับ บช.น. และสถานีตำรวจในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อระบายการจราจรฝั่งขาออก จากฝั่งพระนคร มุ่งหน้าฝั่งธนบุรี ซึ่งมักจะมีปริมาณรถมากในช่วงเวลาดังกล่าว จึงมีความจำเป็นต้องบริหารและจัดการจราจรให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยระหว่างการดำเนินงานปิดเบี่ยง จะมีการจัดสรรกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร พร้อมด้วยอาสาจราจรของผู้รับจ้างฯ เพื่อร่วมกันอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้กับประชาชนที่ใช้เส้นทาง รวมถึงจะร่วมกันเฝ้าระวังและประเมินสถานการณ์ตลอดระยะเวลาการดำเนินงาน ทั้งนี้ การพิจารณาทางเลือกในการขยายระยะเวลาใช้มาตรการปรับทิศทางการสัญจรฯ ดังกล่าว หรือทางเลือกอื่นๆ ตำรวจจราจรจะพิจารณาโดยมุ่งลดผลกระทบต่อประชาชนผู้สัญจรทางถนนเป็นสำคัญ

โดยตั้งแต่วันจันทร์ที่ 25 มี.ค.2567-วันพฤหัสบดีที่ 30 พ.ค.2567 โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงฯ จะดำเนินมาตรการปรับทิศทางการสัญจรบนถนนประชาธิปก และสะพานพระพุทธยอดฟ้า เฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วน ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ ระหว่างเวลา 16.00-19.00 น. โดยปิดช่องทางจราจรบนถนนประชาธิปก ฝั่งขาเข้าจากสี่แยกบ้านแขก ขึ้นสู่สะพานพระพุทธยอดฟ้า เพื่อปรับทิศทางการสัญจรจากขาเข้าเป็นขาออก เพื่อให้รถที่มาจากบนสะพานพระพุทธยอดฟ้า ฝั่งขาออก ใช้เป็นช่องทางเฉพาะกิจลงสู่ถนนประชาธิปก ทดแทนการใช้ช่องทางจราจรร่วมกับรถที่มาจากสะพานพระปกเกล้า ฝั่งขาออก เพื่อเป็นการเพิ่มช่องจราจรฝั่งขาออกทั้งหมด จาก 2 ช่องจราจร เป็น 3 ช่องจราจร ช่วยระบายความหนาแน่นในช่วงเวลาเร่งด่วน สำหรับผู้ใช้เส้นทางในฝั่งขาเข้า ในช่วงเวลาเร่งด่วน ให้ใช้สะพานพระปกเกล้าทดแทน ทั้งนี้ ท่านสามารถสอบถามรายละเอียดการปิดเบี่ยงจราจรได้ที่ โทร. 08 0072 6522

นายกิตติ เอกวัลลภ กล่าวเพิ่มเติมว่า รฟม. ตระหนักถึงผลกระทบด้านการจราจรในบริเวณดังกล่าว จึงได้เร่งรัดให้ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธา ดำเนินการคืนผิวจราจรบนถนนประชาธิปก ฝั่งขาเข้า จำนวน 3 ช่องทาง บริเวณคลองสมเด็จเจ้าพระยา ภายหลังเสร็จสิ้นงานปรับปรุงโครงสร้างสะพานข้ามคลองสมเด็จเจ้าพระยา เพื่อรองรับงานก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่งรถไฟฟ้า ประมาณต้นเดือน เม.ย.2567 เพื่อเพิ่มช่องทางการสัญจรและบรรเทาปัญหาการจราจรให้แก่ประชาชนที่สัญจรในบริเวณดังกล่าว

ทั้งนี้ รฟม. ควบคุมดูแลการก่อสร้าง โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ตามมาตรฐานความปลอดภัยในการก่อสร้าง และตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ ยังได้มีการนำปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกมาใช้ในการก่อสร้าง โดย ณ สิ้นเดือน ก.พ.2567 มีปริมาณการใช้ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกสะสม 104,463.12 ตัน เทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 571,795 ต้น ซึ่งโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงฯ ถือเป็นโครงการนำร่อง ก่อนจะขยายสู่โครงการรถไฟฟ้าสายอื่นๆ ภายใต้การกำกับดูแลของ รฟม. ต่อไป

สำหรับความก้าวหน้าการก่อสร้างงานโยธาของโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงฯ ในภาพรวมทั้ง 6 สัญญา ณ สิ้นเดือน ก.พ.2567 มีความก้าวหน้ารวม 28.62% จากแผนงาน 19.72% คิดเป็นการดำเนินงานเร็วกว่าแผน 8.90% สำหรับท่านที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลโครงการฯ ได้ที่เว็บไซต์ www.mrta–purplelinesouth.com เฟซบุ๊กโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ และ Line @mrtpurpleline หรือติดตามข้อมูลข่าวสาร รฟม. เพิ่มเติม ได้ที่ เว็บไซต์ รฟม. www.mrta.co.th และเฟซบุ๊กแฟนเพจการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ Call Center รฟม. โทรศัพท์ 0 2716 4044

Loading

Back to top button