“มนพร” ดันเต็มสูบโปรเจ็กท์ท่าเรือครุยส์ คาดสร้างปี 72 เปิดบริการปี 75 หนุนสร้างรายได้ 8.5 พันล้าน
“มนพร” ร่วมคณะนายกฯ ล่องใต้ ติดตามการพัฒนาท่าเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่ (Cruise Terminal) เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี วงเงิน 10,430.67 ล้านบาท คาดสร้างปี 72 เปิดบริการปี 75 ส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว สร้างรายได้กว่า 8,500 ล้านบาท
เมื่อวานนี้ (7 เม.ย.2567) นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายสรพันธ์ คุณากรวงศ์ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมคณะตรวจราชการของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในการลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อติดตามโครงการพัฒนาท่าเทียบเรือรองรับเรือสำราญขนาดใหญ่ (Cruise Terminal) ณ แหลมนิคม อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี คาดผลตอบแทนโครงการระยะ 30 ปี มีมูลค่ากว่า 8,500 ล้านบาท จะส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว พร้อมรับฟังปัญหาของประชาชนในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นางมนพร กล่าวว่า ตามนโยบายสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวของรัฐบาล กระทรวงคมนาคมโดยกรมเจ้าท่าได้วางแผนพัฒนาท่าเทียบเรือรองรับเรือสำราญขนาดใหญ่ (Cruise Terminal) ครอบคลุมเส้นทางเดินเรือ ฝั่งอ่าวไทยรองรับการเดินเรือในเส้นทางจากท่าเรือต้นทางที่สิงคโปร์ และท่าเรือปลายทางที่ฮ่องกง โดยจอดที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี สำหรับฝั่งอันดามันรองรับการเดินเรือในเส้นทางจากท่าเรือต้นทางที่สิงคโปร์ แวะเข้าจอดที่เกาะภูเก็ต และ จ.กระบี่
โครงการ Cruise Terminal ที่เกาะสมุย กรมเจ้าท่าได้ว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้นเกี่ยวกับการออกแบบและคัดเลือกพื้นที่เสร็จแล้ว โดยสามารถรองรับนักท่องเที่ยว 180,000 คนต่อปี รองรับเรือ Cruise 118 ลำต่อปี คาดการณ์รายได้ตลอดระยะเวลาโครงการ 30 ปี มีมูลค่า 8,500 ล้านบาท สัดส่วนของรายได้โครงการแบ่งเป็น รายได้จากท่าเทียบเรือ 91% และรายได้เชิงพาณิชย์ 9% ขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (คณะกรรมการ PPP)
จากผลการศึกษาค่าใช้จ่ายของโครงการ 10,430.67 ล้านบาท ผลประโยชน์ของโครงการ ประกอบด้วย การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว การหมุนเวียนของเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจ ค่าตรวจคนเข้าเมือง/ค่าพิธีศุลกากร และมูลค่าซาก 46,417.23 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนทางเศรษฐศาสตร์ (EIRR) ร้อยละ 15.57 โดยจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบโครงการได้ภายในเดือน ก.ค.-ก.ย.2567 นี้ หลังจากนั้นจะเป็นการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน การออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดิน เริ่มต้นการก่อสร้างประมาณเดือน ม.ค.2572 แล้วเสร็จเดือน พ.ย.2575 และเปิดให้บริการในเดือน ธ.ค.2575
โครงการพัฒนาท่าเทียบเรือรองรับเรือสำราญขนาดใหญ่ (Cruise Terminal) อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี มีพื้นที่รวมประมาณ 47 ไร่ ประกอบด้วย พื้นที่บนชายฝั่ง ได้แก่ อาคารบริการและที่จอดรถ และถนนสาธารณะ 15 ไร่ พื้นที่นอกชายฝั่ง ได้แก่ สะพานขึง อาคารผู้โดยสาร 3 ชั้น และท่าเทียบเรือเฟอรี่และเรือยอร์ช 32 ไร่
จากนั้น ดร.มนพร ได้ร่วมกับคณะนายกฯ ติดตามแนวทางการแก้ไขปัญหาขยะในอำเภอเกาะสมุย ณ เตาเผาขยะสมุย เยี่ยมชมแปลงทุเรียนสาธิต ณ สวนทุเรียนนายชัยณรงค์ ทองสุข เยี่ยมชมนิทรรศการสินค้า OTOP และประชุมหารือบูรณาการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ณ สำนักงานเทศบาลนครเกาะสมุย เกี่ยวกับประเด็นน้ำประปาส่วนภูมิภาค ขยะ ท่องเที่ยว การขยายถนนรอบเกาะสมุย และความเป็นไปได้ในการขยายพื้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติสมุย
สำหรับทางหลวงหมายเลข 4169 สายทางรอบเกาะสมุย ซึ่งก่อสร้างและใช้งานมาเป็นเวลานาน ผิวทางบางช่วงชำรุดเสียหายและมีปัญหาน้ำท่วมขังบ่อยครั้ง กรมทางหลวง (ทล.) จึงได้วางแผนก่อสร้างบูรณะปรับปรุงสายทางรอบเกาะสมุย แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 4 ตอน ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ 3 ตอน ดังนี้
ตอน 1 (บ้านหน้าทอน-บ้านหัวถนน) ระหว่าง กม.0+000.000-กม.14+000.000 ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร
ตอน 2 (บ้านใต้-บ้านหน้าทอน) ระหว่าง กม.40+100.000-กม.50+063.013 ระยะทาง 9.963 กิโลเมตร
ตอนที่ 3 (บ้านเฉวง-บ้านใต้) ระหว่าง กม.29+531.000-กม.40+100.000 ระยะทาง 10.569 กิโลเมตร
ตอนที่ 4 (บ้านหัวถนน-บ้านเฉวง) ระหว่าง กม.14+000.000-กม.29+531.000 ระยะทาง 15.531 กิโลเมตร อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มีผลงาน 91.288% ล่าช้ากว่าแผนงาน 8.712% คงเหลืองานปูผิวแอสฟัลต์คอนกรีต ประมาณ 400 เมตร พร้อมตีเส้นด้วยสีเทอร์โมพลาสติก งานไฟฟ้าแสงสว่างพร้อมหม้อแปลง งานติดตั้งป้ายจราจร และงานติดตั้งราวกันตก คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน พ.ค.2567
ในส่วนการพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติสมุย ซึ่งมีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จำนวนผู้โดยสารตั้งแต่เดือน ม.ค.2566-มี.ค.2567 แบ่งออกเป็น ผู้โดยสารในประเทศ-ขาเข้า 1.4 ล้านคน ผู้โดยสารในประเทศ-ขาออก 1.45 ล้านคน ผู้โดยสารระหว่างประเทศ-ขาเข้า 1.04 แสนคน ผู้โดยสารระหว่างประเทศ-ขาออก 1.15 แสนคน โดยมีแผนการที่จะปรับปรุงระบบไฟ Approach หัวทางวิ่ง 17 อยู่ระหว่างการเจรจาขอเช่าพื้นที่กับเทศบาลท้องถิ่น และจะขอขยายเที่ยวบินที่ให้บริการ จาก 50 เที่ยวบิน/วัน เป็น 70 เที่ยวบิน/วัน
มาตรการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยว นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบนโยบายให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกมิติทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ โดยมีเป้าหมายให้ประชาชนเดินทางถึงที่หมายได้อย่างสะดวกและปลอดภัย ตามนโยบาย “เดินทางทั่วไทย คมนาคม สะดวก ปลอดภัย ใส่ใจให้บริการประชาชน” และเชื่อมโยงการเดินทางไร้รอยต่อ ล้อ ราง เรือ ตามนโยบาย “คมนาคม เพื่อความอุดมสุขของประชาชน” ซึ่งทุกหน่วยงานได้เตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน และกำกับดูแลการให้บริการ มาตรฐานความปลอดภัย รวมทั้งแจ้งข้อมูลข่าวสารการเดินทางแก่ประชาชนล่วงหน้าเพื่อวางแผนการเดินทาง
ในโอกาสนี้ นางมนพร ได้กำชับกรมเจ้าท่า เร่งรัดการพัฒนาท่าเทียบเรือเกาะสมุยที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ให้แล้วเสร็จภายในปี 2568 เพื่อเพิ่มศักยภาพของท่าเรือสำหรับรองรับเรือขนส่งนักท่องเที่ยวจากเรือสำราญ (Landing Pier) และผู้โดยสารจากเรือสำราญ (Cruise) ซึ่งเมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการจะสามารถรองรับเรือ Tender พร้อมกันได้ครั้งละ 4 ลำ มีอาคารพักคอยรองรับผู้โดยสาร (Terminal) พื้นที่ 1,800 ตารางเมตร รองรับจำนวนนักท่องเที่ยวได้ถึง 1,300 คน/วัน