“สกพอ.” เปิดแผนพัฒนา TOD รอบสถานีรถไฟความเร็วสูงฉะเชิงเทรา
วันนี้ (25 เม.ย.2567) เวลา 09.00 น. สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ได้จัดการสัมมนาสรุปผลการศึกษาโครงการจัดทำแผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดินบริเวณพื้นที่รอบสถานีเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ณ ห้องชลธี 1 ชั้น 2 โรงแรมซันธารา เวลเนส รีสอร์ท อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา โดยได้รับเกียรติจาก นายกำพล สิริรัตตนนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานเปิดการประชุม เพื่อนำเสนอข้อมูลสรุปผลการศึกษาโครงการ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย เจ้าของที่ดินที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานราชการ ได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ที่เป็นประโยชน์ต่อโครงการ เพื่อนำมาพัฒนาโครงการให้มีความเหมาะสมมากที่สุด
สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน เป็นอีกหนึ่งโครงการสำคัญในการขับเคลื่อนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor) ซึ่งหนึ่งในการต่อยอดการพัฒนารถไฟความเร็วสูง คือ การพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่ง หรือ TOD ให้เกิดการใช้ประโยชน์ต่อชุมชนและสังคม พร้อมไปกับการสร้างให้พื้นที่มีมูลค่าเศรษฐกิจสูงขึ้น โดยแนวทางการพัฒนาเมืองโดยรอบสถานีขนส่งหรือ TOD จะเป็นการวางแผนเพื่อการพัฒนาพื้นที่ โดยเน้นความสมัครใจและความสนใจร่วมโครงการฯ ไม่มีการเวนคืนที่ดินของประชาชน
ซึ่งที่ผ่านมา สกพอ. พร้อมด้วยบริษัทที่ปรึกษาโครงการฯ ได้ดำเนินการจัดทำแผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดินบริเวณพื้นที่รอบสถานี เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษฯ เพื่อรองรับการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีรถไฟความเร็วสูง 2 แห่ง ได้แก่ สถานีรถไฟความเร็วสูงพัทยา จ.ชลบุรี และสถานีรถไฟความเร็วสูงฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมกับรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่องซึ่งสามารถสรุปผลรายละเอียดโครงการในส่วนของสถานีรถไฟความเร็วสูงฉะเชิงเทรา ดังนี้
ปัจจุบัน สกพอ. ได้มีการวางผังการใช้ประโยน์ที่ดินของสถานีรถไฟความเร็วสูงฉะเชิงเทรา จำนวนทั้งหมด 321 ไร่ ในเขตพื้นที่ ต.วังตะเคียน อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา แบ่งได้ 2 โซน ดังนี้
บริเวณที่ 1 เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษเพื่อกิจการพิเศษ (ขก.1) มีพื้นที่ 78 ไร่ เป็นพื้นที่เพื่อดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน และกิจการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน
บริเวณที่ 2 เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษเพื่อกิจการพิเศษ (ขก.2) มีพื้นที่ 243ไร่ เป็นพื้นที่เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเมืองโดยรอบสถานีรถไฟความเร็วสูงฉะเชิงเทรา สนับสนุนกิจการโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน และ เป็นศูนย์กลางพาณิชยกรรม ธุรกิจ การค้าการบริการ ที่อยู่อาศัย การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพศูนย์การแพทย์ และฟื้นฟูสุขภาพ
ซึ่งมีแนวคิดการออกแบบและการพัฒนาพื้นที่ในเชิงพาณิชย์ แบ่งได้ 3 ระยะ ดังนี้
1.ระยะเร่งด่วน ได้แก่ โครงการศูนย์สนับสนุนการเปลี่ยนถ่ายการเดินทาง และโครงการย่านการค้า เพื่อสนับสนุนการเดินทางโดยรถไฟความเร็วสูง
2.ระยะสั้น (5 ปี) ได้แก่ โครงการศูนย์ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) และร้านค่าชุมชน (OTOP) ,โครงการที่อยู่อาศัยประเภทห้องพักสำหรับผู้ทำงานในพื้นที่โครงการฯ ,โครงการที่พักอาศัยหนาแน่นปานกลาง เช่น อาคารชุด ,โครงการอาคารสำนักงาน ร้านค้า และที่พักอาศัย (Home Office) ซอยทวีสุข
3.ระยะยาว (10 ปี) ได้แก่ โครงการศูนย์การแพทย์และที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุครบวงจร (Senior Complex) โรงแรมและย่านการค้า และโครงการที่พักอาศัยหนาแน่นปานกลาง
นอกจากนี้ยังมีโครงการพัฒนาของภาครัฐหลากหลายโครงการที่เตรียมเสนอแนะ เพื่อให้รองรับกับการพัฒนาโครงการ โดยแบ่งได้ 5 ส่วน ดังนี้ 1.โครงการพัฒนาด้านคมนาคมขนส่งเพื่อการเข้าถึงสถานีรถไฟ จำนวน 3 โครงการ 2.โครงการศึกษาออกแบบจัดทำแนวทางการออกแบบทางกายภาพ (Design Guidelines) ในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษฯ จำนวน 1 โครงการ 3.โครงการพัฒนาโครงข่ายถนนเพื่อส่งเสริมการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานี จำนวน 6 โครงการ 4.โครงการพัฒนาปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ จำนวน 5 โครงการ และ 5.โครงการบริการสาธารณะ จำนวน 2 โครงการ
ทั้งนี้ ภายหลังการประชุมครั้งนี้ ที่ปรึกษาโครงการฯ จะรวบรวมข้อมูลความคิดเห็น และข้อเสนอแนะจากผู้เข้าร่วมประชุม นำมาปรับปรุงการจัดทำแผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดินบริเวณพื้นที่รอบสถานีเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน สถานีฉะเชิงเทรา ให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
จากนั้นจึงเสนอ สกพอ. เพื่อเสนอคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เพื่อเห็นชอบ (ร่าง) ประกาศคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เรื่อง แผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณพื้นที่รอบสถานีเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน : บริเวณสถานีรถไฟความเร็วสูงฉะเชิงเทรา และเสนอคณะรัฐมนตรีตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2567