“คมนาคม” ยันแผนพัฒนาท่าเรือบกทำการศึกษาแนวทางอย่างละเอียด หลัง “ฉัตร สุภัทรวณิชย์” อ้างไม่ได้ศึกษาจุดที่ตั้งหวั่นผู้ประกอบการไม่คุ้มค่าของการใช้เส้นทาง
วันนี้ (5 ก.ค.2567) นายสรพันธ์ คุณากรวงศ์ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ตามที่นายฉัตร สุภัทรวณิชย์ ส.ส.นครราชสีมา พรรคก้าวไกล ได้กล่าวถึงการเลือกตำแหน่งที่ตั้งของการพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port) ว่าไม่ได้มีการศึกษาจุดที่ตั้งของโครงการรวมถึงไม่ได้ประเมินความคุ้มค่าของการใช้เส้นทางของผู้ประกอบการขนสินค้า ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา
โดยในกรณีดังกล่าวขอยืนยันว่า นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินงานอย่างเคร่งครัด และได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบความเหมาะสม เพื่อต้องการให้การพัฒนาโครงการเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศไทยและเอื้อประโยชน์ต่อประชาชนทุกภาคส่วน ดังนั้นทุกกระบวนการในการพัฒนาโครงการนั้น ได้จัดทำแผนและแนวทางรวมถึงตำแหน่งที่ตั้งมาอย่างละเอียด เพื่อต้องการให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาคอย่างครบวงจร
โดยการพัฒนาท่าเรือบกในพื้นที่ จ.นครราชสีมา นั้นทุกหน่วยงานได้มีการประชุมร่วมกับคณะอนุกรรมการจัดระบบการจราจรทางบกจังหวัดนครราชสีมาอย่างต่อเนื่อง และทางจังหวัดยังได้ร่วมหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นการขับเคลื่อนการดำเนินโครงการพัฒนาท่าเรือบกร่วมกัน โดยมีภาครัฐ ภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน จ.นครราชสีมาเข้าร่วมด้วย ซึ่งทาง จ.นครราชสีมามีความเห็นในเรื่องการเลือกพื้นที่ในการพัฒนาควรเป็นพื้นที่ ต.หนองไข่น้ำ อ.เมือง ซึ่งต่างจากผลการศึกษาที่เลือกพื้นที่ตำบลกุดจิก อ.สูงเนิน
จึงทำให้ขณะนี้การพัฒนาท่าเรือบกในพื้นที่ จ.นครราชสีมา จะมีการศึกษาทบทวนพื้นที่ที่มีความเหมาะสมใหม่อีกครั้งรวมทั้งศึกษาปริมาณสินค้าและเส้นทางการขนส่ง เพื่อให้มีระบบที่เชื่อมต่อโลจิสติกส์ ศึกษารูปแบบการลงทุนที่เหมาะสม โดยระหว่างนี้ยังได้เปิดโอกาสให้มีการรับฟังความคิดเห็นและความเป็นไปได้เชิงธุรกิจ (Market Sounding) จากภาคเอกชน อาทิ เจ้าของสินค้า สายการเดินเรือ และผู้ประกอบการ และเปิดโอกาสให้เอกชนมีส่วนร่วมลงทุนในรูปแบบที่เหมาะสมด้วยเช่นกัน เพื่อให้การพัฒนาท่าเรือบกในพื้นที่ จ.นครราชสีมา มีความเหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทยและผู้ประกอบการรวมถึงประชาชนทุกภาคส่วนต่อไป
ทั้งนี้จากกรณีการกล่าวหาที่เกิดขึ้นนั้น ต้องขอบคุณ นายฉัตร สุภัทรวณิชย์ ที่ให้ความสนใจโครงการและมองว่าจะเกิดประโยชน์ต่อประเทศและจะเกิดการจ้างงาน รวมถึงสร้างรายได้ ซึ่งทางรัฐบาลและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยืนยันว่าการดำเนินโครงการตามแผนอย่างโปร่งใส และมีการศึกษารายละเอียดต่างๆ อย่างครบถ้วน
