พรุ่งนี้!! “รฟท.” เปิดขายตั๋วทริปรถไฟท่องเที่ยว ROYAL BLOSSOM เส้นทางกรุงเทพ-กาญจนบุรี ราคา 1,799 บาทต่อคน เดินทาง 24 และ 31 ส.ค.นี้
วันนี้ (15 ส.ค.2567) นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ระบุว่า ขอเชิญชวนประชาชน นักท่องเที่ยว ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางทริปท่องเที่ยวสุดพิเศษกับขบวน ROYAL BLOSSOM เส้นทางรถไฟสายแห่งความสุข กรุงเทพ-กาญจนบุรี แบบ One Day Trip ในวันเสาร์ที่ 24 และ 31 ส.ค.2567 ราคาท่านละ 1,799 บาท
นักท่องเที่ยวที่สนใจ สามารถสำรองที่นั่งได้ตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค.2567 เวลา 08.30 น. จำกัดจำนวน 156 ที่ต่อทริปเท่านั้น ซึ่งราคาดังกล่าวเป็นราคารวมค่าโดยสารรถไฟ ค่ารถบัสปรับอากาศ ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ พร้อมอาหารและเครื่องดื่มแบบจัดเต็มตลอดการเดินทาง รวมทั้ง ค่าประกันอุบัติเหตุ จองตั๋วได้ที่สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ และช่องทางการจำหน่ายตั๋วระบบออนไลน์ D – Ticket สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับโปรแกรมท่องเที่ยว ROYAL BLOSSOM เส้นทางรถไฟสายแห่งความสุข กรุงเทพ-กาญจนบุรี แบบ One Day Trip ในวันเสาร์ที่ 24 และ 31 ส.ค.2567 จะพาทุกท่านไปสัมผัสกับสถานที่ท่องเที่ยวอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์มากมาย อาทิ การชมวิวทิวทัศน์บน “สะพานข้ามแม่น้ำแคว” ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่โด่งดังไปทั่วโลก แวะชม “สะพานถ้ำกระแซ” สะพานไม้ที่สร้างเลียบไปตามหน้าผาริมแม่น้ำแควน้อย ผ่านโค้งน้ำที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเส้นทางรถไฟ
พร้อมขอพรพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานอยู่ภายใน “ถ้ำกระแซ” อดีตที่พักของเชลยศึกขณะที่ก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายมรณะแห่งนี้ ดื่มด่ำสัมผัสกับบรรยากาศธรรมชาติสองฝั่งแม่น้ำแควน้อย-แควใหญ่ที่ร้านอาหาร “แพธาราบุรี” ตลอดจนไหว้พระขอพรที่ “วัดเมตตาธรรมโพธิญาณ” ชมความงดงามของสถาปัตยกรรมจีน และถ้ำสวยกลางป่า “วัดถ้ำพุหว้า” ที่มีหินงอกหินย้อยภายในถ้ำ พร้อมกับชมสถาปัตยกรรมขอมโบราณอันสวยงามของวัดอีกด้วย
การจัดขบวนรถไฟท่องเที่ยว ROYAL BLOSSOM เป็นการบูรณาการความร่วมมือของ รฟท. ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร ภาครัฐ ภาคเอกชนของจังหวัดต่างๆ ตามนโยบายของนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ต้องการให้ รฟท. ได้เข้าไปมีส่วนร่วม สนับสนุนและส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ เพื่อก่อให้เกิดการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ
อีกทั้ง เป็นการเพิ่มการใช้บริการทางรถไฟ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล โดยใช้ศักยภาพทางด้านระบบขนส่งสาธารณะของประเทศเป็นเครื่องมือในการกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวตลอดทั้งปี
