Transport

“เจ้าท่า” เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงอุบัติเหตุเจ็ทสกีชนกับเรือหางยาว จ.สมุทรปราการ

เมื่อวันที่ 17 ส.ค.2567 เวลา 21.00 น. สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีการเกิดอุบัติเหตุ​ที่ท่าน้ำวัดบางกระเจ้านอก ต.บางกะเจ้า อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ทราบว่ามีเรือเจ็ทสกีโดนกับเรือให้บริการรับส่งผู้โดยสารหางยาว มีผู้สูญหาย 2 ราย เป็นผู้โดยสารกับเรือรับส่งและนายท้าย ผู้ให้บริการรับส่งพระรามสาม-บางกะเจ้า จึงเร่งประสานกู้ภัยเพื่อค้นหาผู้สูญหายทั้งสองราย

เจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ จึงลงพื้นทันที ได้เดินทางไป สภ.พระประแดง เพื่อสอบถามข้อมูลถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้สอบถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์และผู้ประสบเหตุ รวมถึงผู้ขับขี่เจ็ทสกีลำที่ชนในที่เกิดเหตุดังกล่าว จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ นายชาติ ได้อยู่บริเวณท่าเรือวัดบางกระเจ้านอก เรือหางยาวได้ออกจากท่าเรือวัดบางกระเจ้านอก โดยมีผู้โดยสารรวมคนขับ จำนวน 3 คน เพื่อไปส่งคนขึ้นเรือ บังเกอร์ ที่จอดกลางน้ำบริเวณระหว่างฝั่งพระราม 3

ต่อมาไม่ทราบว่าเรือเจ็ทสกีมาจากไหน วิ่งพุ่งชนบริเวณ กราบขวาเรือ บริเวณท้ายกึ่งกลาง เหตุการณ์เกิดขึ้นรวดเร็ว ทำให้คนขับเรือกระเด็นลงน้ำ พร้อมเครื่องยนต์เรือและผู้โดยสาร ผู้หญิงนั่งบริเวณกลางลำไปทางท้ายเรือ กระเด็นตกน้ำจมหายไป เหลือผู้โดยสารหัวเรือที่ยังอยู่บนเรือ ทราบชื่อคือนาย มงคลสวัสดิ์ เวิ่นกระโทก ได้เล่าว่าเรือเจ็ทสกีได้ชนเรือที่ตนนั่ง ทำให้ภรรยาตนและนายท้ายเรือตกและจมน้ำ ผู้เห็นเหตุการณ์ได้ขับเรือเพื่อเข้าช่วยเหลือเรือหางยาวลากเข้าฝั่งทันที และช่วยค้นหาผู้ประสบเหตุทั้ง 2 แต่หาไม่พบ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมนักประดาน้ำช่วยค้นหา

ขณะเดียวกันได้สอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับผู้ขับขี่เจ็ทสกีลำที่ชนเรือหางยาว ชื่อนายธินดนัย แซ่ลิ้ม ได้ความว่า ตนกับพวก ขับเจ็ทสกี ไปทานข้าวย่านบางกระเจ้า จำนวน 5 ลำ ระหว่างเดินทางกลับเข้าคลองจอมทอง กทม. ได้เกิดเหตุเรือชนเรือหางยาว บริเวณกลางแม่น้ำ ระหว่างพระราม 3-วัดบางกระเจ้านอก มองไม่เห็นเรือหางยาวเนื่องจากทัศนวิสัยมืด จึงทำให้ชน ทำให้ตนและผู้ซ้อนเป็นหญิงตกน้ำ โดยพวกเพื่อนได้มาช่วยเข้าฝั่ง ซึ่งผู้ซ้อนได้รับบาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาลบางปะกอกสมุทรปราการแล้ว

จากนั้นเวลา 00.53 เจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ ได้เดินทางมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ท่าเรือวัดบางกระเจ้านอก ได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูชี้จุดเกิดเหตุจากการสอบสวน เพื่อให้การค้นหาง่ายขึ้น และในเวลาประมาณ 03.40 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยพบร่างผู้เสียชีวิตทั้งสองรายคือ นางปาริฉัจ หอบมั่น อายุ 43 ปี และนายประยูร อ่วมประทุม อายุ 66 ปี (ผู้ขับขี่เรือหางยาว)

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบซักถามข้อมูลเบื้องต้น เรือเจ็ทสกีลำเกิดเหตุ ชื่อเรือ เจ.เอ.พี.พี. หมายเลขทะเบียนเรือ 670000026 หมดอายุ 21 ธ.ค.2567 เจ้าของเรือชื่อ ว่าที่ ร.ต. พรทวี จันทร์ม่วง ขณะเกิดเหตุ มีนาย ชินดนัย แซ่ลิ้ม เป็นนายท้ายผู้ขับขี่เรือ ตรวจแอลกอฮอล์แล้วไม่พบปริมาณสารแอลกอฮอล์จากผู้ขับขี่เรือเจ็ทสกี จากข้อมูลเจ้าหน้าที่ตำรวจ (พ.ต.ท. อิศรัฐ ตันสุ ร้อยเวรเจ้าของคดี) ในส่วนของกรมเจ้าท่า จากการตรวจสอบผู้ขับขี่ไม่มีประกาศนียบัตรผู้ควบคุมเรือ (ใบนายท้าย) โดยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ ได้ออกคำสั่งห้ามใช้เรือและออกหนังสือเชิญเจ้าของเรือและผู้ขับเจ็ทสกีเข้ามาพบ ในวันที่ 19 ส.ค.2567 เพื่อให้ข้อมูลต่อกรมเจ้าท่าต่อไป

ขณะเดียวกัน วันนี้ (18 ส.ค.2567) สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ ได้เข้าร่วมประชุมหารือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรพระประแดงเกี่ยวกับอุบัติเหตุ โดยตรวจสอบเพื่อให้พิสูจน์ทราบจุดเกิดเหตุร่วมกับเจ้าพนักงานสอบสวน สภ.พระประแดง และร่วมตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเพื่อพิสูจน์หา DNA ของผู้ขับขี่เจ็ทสกีด้วย

หากพบเห็นความไม่ปลอดภัยทางน้ำ โทร. 1199 สายด่วนกรมเจ้าท่า ตลอด 24 ชั่วโมง

Loading

Back to top button