Transport

“ทางหลวงชนบท” เซ็นต์จ้าง 5 บิ๊กโปรเจ็กท์ 75 กม. วงเงินกว่า 3,877 ล้าน คาดปิดจ๊อบปี 70

“กรมทางหลวงชนบท” ลงนามสัญญาจ้างก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ 5 โครงการ ระยะทาง 75 กม. วงเงินกว่า 3,877 ล้านบาท คาดว่าแล้วเสร็จปี 70 ยกระดับโครงข่ายคมนาคมสะดวก ปลอดภัย เพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจการค้า-การท่องเที่ยวคึกคัก

เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ที่ผ่านมา นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ระบุว่า ได้เป็นประธานพิธีลงนามในสัญญาจ้างก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ กรมทางหลวงชนบท โดยการลงนามในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อลงนามสัญญาจ้างก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ ระหว่างกรมทางหลวงชนบท กับ ผู้แทนบริษัท พี.ที.เอ.คอนสตรัคชั่น จำกัด, ผู้แทนบริษัท เอส เทค ซีวิล แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด,  ผู้แทนบริษัท ถนอมวงศ์บริการ จำกัด, ผู้แทนบริษัท พีระมิดคอนกรีต จำกัด และผู้แทนบริษัท วิวัฒน์ก่อสร้าง จำกัด โดยเน้นย้ำถึงการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ทั้ง 5 โครงการ โดยให้คำนึงถึงมาตรฐานด้านความปลอดภัยเป็นหลัก ทั้งความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และประชาชนในพื้นที่ ตลอดจนการก่อสร้างต้องไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชน พร้อมทั้งกำชับให้การดำเนินงานก่อสร้างต้องมีคุณภาพ ได้มาตรฐานตามหลักวิศวกรรมของกรมทางหลวงชนบท เมื่อแล้วเสร็จจะได้ส่งมอบให้กับประชาชนใช้ในการสัญจรได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย

นายอภิรัฐ กล่าวว่า เมื่อโครงการขนาดใหญ่ทั้ง 5 โครงการดำเนินการแล้วเสร็จจะช่วยเชื่อมต่อโครงข่ายการคมนาคมให้มีความสมบูรณ์ ยกระดับการเดินทางให้สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย บรรเทาการจราจรติดขัดภายในตัวเมือง เพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจการค้า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้อย่างยั่งยืน พร้อมรองรับการขยายตัวของเมืองในอนาคต ซึ่งใช้งบประมาณดำเนินการรวม 3,877.08 ล้านบาท ระยะทางรวม 75.192 กิโลเมตร (กม.) หลังจากลงนามสัญญาแล้วจะเริ่มก่อสร้างทันที คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2570 โดยโครงการที่ลงนามสัญญาจ้างในครั้งนี้ จำนวน 5 โครงการ ประกอบด้วย

1.โครงการก่อสร้างถนนเลียบแม่น้ำโขง นาคาวิถี ช่วงสะพานมิตรภาพไทย-ลาว (แห่งที่ 2)-พระธาตุพนม อ.เมือง, ธาตุพนม จ.มุกดาหาร, นครพนม ระยะทาง 43.485 กม. งบประมาณทั้งสิ้น 614.7 ล้านบาท เพื่อเพิ่มศักยภาพโครงข่ายสายทางในพื้นที่ จ.มุกดาหาร และ จ.นครพนม โดยพัฒนาให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยวและเส้นทางชมทิวทัศน์ (Scenic Route) เลียบริมฝั่งแม่น้ำโขง สนับสนุนให้เกิดการขยายตัวทางด้านการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ และยุทธศาสตร์การพัฒนาของพื้นที่

2.โครงการก่อสร้างถนนสาย ก ผังเมืองรวมเมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว ระยะทาง 12.795 กม. งบประมาณทั้งสิ้น 914.5 ล้านบาท เชื่อมโครงข่ายการคมนาคมของ จ.สระแก้ว ให้มีความสมบูรณ์ ยกระดับการเดินทางให้กับประชาชนได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย รวมทั้งรองรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ สังคม การค้า และการลงทุนของชุมชมเมือง เพื่อพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวไปสู่ประตูเศรษฐกิจยังประเทศเพื่อนบ้านและภูมิภาคอื่นในอนาคต

3.โครงการก่อสร้างถนนสาย ก1, ข และ ค1 ผังเมืองรวมเมืองตราด จ.ตราด ระยะทาง 8.132 กม. งบประมาณทั้งสิ้น 914.8 ล้านบาท เป็นโครงการที่จะช่วยยกระดับมาตรฐานการเดินทาง การขนส่งสินค้าของประชาชนให้สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น แก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในตัวเมือง เชื่อมโยงโครงข่ายการคมนาคมระหว่าง ทล.3 กับ ทล.318 (เลี่ยงเมืองด้านเหนือ) พร้อมรองรับการขยายสายทาง เพื่อยกระดับการค้าและการท่องเที่ยวเชื่อมประเทศกัมพูชาในอนาคต

4.โครงการก่อสร้างถนนสายส่วนต่อขยายถนนเฉลิมพระเกียรติ (ตอนที่ 1) จ.นครศรีธรรมราช ระยะทาง 5.500 กม.  งบประมาณทั้งสิ้น 613.48 ล้านบาท ก่อสร้างให้เป็นถนนวงแหวน เพื่อบรรเทา และแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในตัวเมืองนครศรีธรรมราช โดยใช้ถนนสายดังกล่าวเป็นถนนเลี่ยงเมือง พร้อมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ทั้งด้านที่อยู่อาศัย และการพาณิชยกรรม ตลอดจนรองรับการขยายตัว และการเติบโตของเมืองในอนาคตอีกด้วย

5.โครงการก่อสร้างถนนสายส่วนต่อขยายถนนเฉลิมพระเกียรติ (ตอนที่ 2) จ.นครศรีธรรมราช ระยะทาง 5.280 กิโลเมตร งบประมาณทั้งสิ้น 819.6 ล้านบาท เป็นการยกระดับการเดินทางในพื้นที่นอกเมืองนครศรีธรรมราชให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ซึ่งถนนในพื้นที่เมืองเป็นถนนที่มีความคับแคบ ไม่สามารถปรับปรุงและขยายถนนเดิมได้ จึงก่อสร้างส่วนต่อขยายถนนเฉลิมพระเกียรติ (ตอนที่ 2) เป็นถนนวงแหวนเลี่ยงเมืองด้านทิศตะวันออก เพื่อบรรเทาการจราจรติดขัดภายในตัวเมือง พร้อมรองรับการเจริญเติบโต และการขยายตัวของเมืองในอนาคต

โอกาสนี้มีนายผดุงศักดิ์ สรุจิกำจรวัฒนะ รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ด้านดำเนินงาน) เป็นผู้กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ และแนวทางในการดำเนินงานก่อสร้าง รวมถึงเป็นผู้แทนกรมทางหลวงชนบทในการลงนามในสัญญา มีนายเขตโสภณ โภคารัตนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง และนายยงยุทธ์ เพ็งเมือง ผู้อำนวยการสำนักก่อสร้างทาง ลงนามเป็นพยาน พร้อมทั้งมีผู้แทนกรมทางหลวงชนบท และผู้แทนบริษัทร่วมเป็นสักขีพยานและเข้าร่วม ณ ศูนย์ราชการสะดวก (GECC) กรมทางหลวงชนบท (บางบัว)

Loading

Back to top button