“กรมทางหลวงชนบท” นำเจ้าหน้าที่ซ่อมแซมสายทางหลังได้รับผลกระทบจากอุทกภัยบนถนนสาย ลย.2002 จ.เลย เสร็จสมบูรณ์ พร้อมอัปเดตสถานการณ์น้ำท่วมใน 3 จังหวัด เร่งบรรเทาความเดือดร้อนในการเดินทางให้ประชาชนในพื้นที่
วันนี้ (5 ก.ย.2567) นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ระบุว่า จากเหตุการณ์ฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ทำให้ถนนทางหลวงชนบทสาย ลย.2002 ได้รับความชำรุดเสียหายบริเวณแยก ทล.21-บ้านซำแซง อ.ภูเรือ และ อ.วังสะพุง จ.เลย ปัจจุบันแขวงทางหลวงชนบทเลยได้เข้าดำเนินการซ่อมแซมถนนทางเบี่ยงแล้วเสร็จ พร้อมเปิดให้ประชาชนใช้สัญจรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับรถบรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป แนะนำให้ใช้ทางเลี่ยงในการสัญจรแทน โดยแนะให้เลี่ยงไปใช้เส้นทาง ทล.2140 (เส้นสีดำ) จากจุดปิดการจราจร ระยะทาง 5.5 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าถนนทางหลวงชนบทสาย ลย.4021 บ้านขอนแก่น (เส้นสีเขียว) ระยะทาง 9 กิโลเมตร และเลี้ยวซ้ายเข้าถนนทางหลวงชนบทสาย ลย.2002 บริเวณบ้านหนองหญ้าปล้อง เพื่อเดินทางไปต่อไปยัง อ.ภูเรือ อีกทั้งประชาชนที่จะเดินทางมาจาก อ.ภูเรือไปยัง อ.วังสะพุง ก็สามารถใช้เส้นทางดังกล่าวได้เช่นเดียวกัน
ขณะเดียวกันสำนักบำรุงทาง ได้รายการงานสถานการณ์ปัจจุบัน พบว่า มีสายทางในความรับผิดชอบของ ทช. ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย ปราจีนบุรี และสุโขทัย จำนวน 5 สายทาง โดยสัญจรผ่านไม่ได้ 3 สายทาง และสัญจรผ่านได้ 2 สายทาง ดังนี้
สัญจรผ่านไม่ได้ 3 สายทาง ได้แก่
1.ถนนสาย ชร.4008 แยก ทล.1020 (กม.ที่ 87+200)-บ้านศรีสะอาด อ.ขุนตาล และ อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย (ช่วง กม.ที่ 4+000 ถึง 6+000)
2.ถนนสาย ชร.5031 แยกทางหลวงชนบทสาย ชร.4014 (กม.ที่ 0+700)-บ้านซ้อใต้ อ.เชียงของ จ.เชียงราย (ช่วง กม.ที่ 3+800 ถึง 5+200)
3.ถนนสาย ชร.022 สะพานประชาร่วมใจ อ.เชียงของ จ.เชียงราย (ช่วง กม.ที่ 1+450 ถึง 2+000)
สัญจรผ่านได้ 2 สายทาง ได้แก่
1.ถนนสาย ปจ.5026 แยกทางหลวงชนบทสาย ปจ.2010 (กม.ที่ 1+925)-น้ำตกธารทิพย์ อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี (ช่วงกม.ที่ 0+900 ถึง 1+900)
2.ถนนสาย สท.4003 แยก ทล.1293 (กม.ที่ 11+000)-บ้านบางกระบาน อ.เมือง จ.สุโขทัย (ช่วง กม.ที่ 5+000 ถึง 7+000)
ทั้งนี้ ทช. จะติดตามสถานการณ์อุทกภัยในสายทางที่ได้รับผลกระทบอย่างใกล้ชิด พร้อมเฝ้าระวังสายทางในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงในการเกิดเหตุดินสไลด์หรือคอสะพานชำรุดบนถนนทางหลวงชนบท โดยได้เน้นย้ำให้จัดชุดลาดตระเวนสำรวจพื้นที่เสี่ยงเป็นพิเศษ เพื่อให้สามารถเข้าดำเนินการแก้ไขได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดเหตุ เพื่ออำนวยความสะดวกปลอดภัยให้กับผู้ใช้เส้นทาง และหากประชาชนต้องการแจ้งเหตุอุทกภัยหรือขอความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่แขวงทางหลวงชนบททุกจังหวัด หรือสายด่วน โทร. 1146
