“สุริยะ” กำชับหน่วยงานคมนาคมพร้อมรับเดินทาง “ลอยกระทง” 15 พ.ย.นี้
“สุริยะ” กำชับทุกหน่วยงานเตรียมรองรับประชาชน – เพิ่มจำนวนรถโดยสาร – ส่งเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง ตลอด 24 ชม. ช่วง “เทศกาลลอยกระทง 2567” พร้อมขอความร่วมมืองดการปล่อยโคมลอยหวังเลี่ยงอันตรายต่ออากาศยาน
วันนี้ (13 พ.ย.2567) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ในช่วงเทศกาลลอยกระทง ประจำปี 2567 ซึ่งตรงกับวันที่ 15 พ.ย.2567 คาดว่าจะมีประชาชนและนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและต่างประเทศเดินทางไปร่วมงานลอยกระทงในสถานที่จัดงานต่าง ๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดจำนวนมาก จึงได้กำชับทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมให้รองรับการเดินทางของประชาชนทั้งการเดินทางทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ โดยให้ร่วมกันเตรียมความพร้อมและกำกับดูแลอำนวยความสะดวกและความปลอดภัย
พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กรมท่าอากาศยาน (ทย.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) และบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ดำเนินการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ประชาชนได้ทราบข้อมูลเรื่องการงดหรือหลีกเลี่ยงการปล่อยโคมลอย โคมควัน ดอกไม้ไฟ แสงเลเซอร์ อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) หรือวัตถุอื่นใดที่อาจเป็นอันตรายต่ออากาศยาน โดย บวท. ได้ดำเนินการบริหารจัดการด้านอากาศคาดว่าเที่ยวบินเดือนพฤศจิกายน 2567 จะมีจำนวนทั้งสิ้น 73,500 เที่ยวบิน เฉลี่ยวันละ 2,450 เที่ยวบิน หรือเพิ่มขึ้น 36% จากช่วงเทศกาลลอยกระทงปีก่อน
ดังนั้น จึงขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามข้อบังคับในการปล่อยโคมลอย โคมควัน ตามช่วงเวลาที่หน่วยงานราชการของแต่ละจังหวัดกำหนดซึ่งจะสัมพันธ์กับการปรับตารางการบินของสายการบินต่าง ๆ เพื่อให้เกิดมาตรฐานการจัดการในช่วงเทศกาลที่ดี ควบคู่ไปกับการสร้างความปลอดภัยทางการบิน พร้อมทั้งได้เพิ่มบุคลากรเพื่อปฏิบัติงานควบคุมจราจรทางอากาศให้มีความปลอดภัย และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ขณะที่ ทย. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้เจ้าพนักงานเข้าลงพื้นที่เพื่อเฝ้าระวังในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ ซึ่งเป็นจุดเสี่ยงต่อแนวร่อนของอากาศยานที่ทำการขึ้น – ลง ตลอด 24 ชั่วโมง และยึดถือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากการจุดพลุ ปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันไปบนอากาศซึ่งหากผู้ใดฝ่าฝืนจะมีผลทางกฎหมายในการกำหนดโทษทันที
ด้านกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ได้ประสานขอความอนุเคราะห์ไปยังตำรวจในพื้นที่เฝ้าระวังความปลอดภัยในทุกพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การดูแล พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ตรวจตราเวรยามสังเกตการณ์ ดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่เดินทางมาลอยกระทงให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย หากประชาชนต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือแจ้งเหตุสามารถติดต่อได้ที่สายด่วน ทช. โทร. 1146
ส่วนองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ว่า ได้มอบหมายให้จัดเตรียมรถโดยสารให้เพียงพอต่อประชาชนผู้ใช้บริการ ขสมก. จึงเตรียมจัดรถโดยสาร จำนวน 2,638 คัน รวม 15,440 เที่ยว พร้อมขยายเวลาเดินรถในเส้นทางที่วิ่งผ่านสถานที่จัดงานวันลอยกระทง โดยปล่อยรถคันสุดท้ายออกจากท่าต้นทาง ในเวลา 24.00 น. เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชน นอกจากนี้ ได้จัดเจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษประจำจุดบริเวณป้ายหยุดรถโดยสารที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่นเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจรและดูแลความปลอดภัย
ขณะที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้จัดเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกและปลอดภัย รองรับการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่จะเดินทางไปร่วมเทศกาลลอยกระทงทั่วประเทศ โดยพ่วงตู้โดยสารในขบวนรถจนเต็มหน่วยลากจูง พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่รถไฟ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยปฏิบัติหน้าที่ตามแนวทางมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ทั้งบนขบวนรถและโดยรอบสถานี และเพิ่มความถี่ในการออกตรวจตราความเรียบร้อยบนขบวนรถอย่างเคร่งครัด รวมถึงให้ตรวจสอบการใช้งานของกล้องวงจรปิด (CCTV) ที่ติดตั้งอยู่ภายในสถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นการส่งเสริมและอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม อีกทั้งช่วยสนับสนุนนโยบายรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมในการส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มขึ้น เพื่อลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ในช่วงเทศกาลลอยกระทง ประจำปี 2567 ขอย้ำว่ากระทรวงคมนาคม พร้อมที่จะอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชน โดยต้องการให้ลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุให้ได้มากที่สุด พร้อมทั้งสร้าง “โอกาส” ให้กับประชาชนได้ยกระดับคุณภาพชีวิตในการเดินทาง ลดระยะเวลา ลดต้นทุน ลดอัตราค่าบริการ ลดปัญหาอุปสรรค และสร้างโอกาสในการเดินทางของคนทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง