บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) กระทรวงคมนาคม ร่วมรณรงค์ลดฝุ่นควัน สนับสนุนนโยบายรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม ป้องกันและแก้ปัญหาฝุ่นควันภาคเหนือ ผลักดันโครงการนำร่องนำเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรออกจากแปลงป้องกันการเผา พร้อมส่งเสริมหมู่บ้านปลอดการเผา ให้ชุมชนตระหนักรู้และขับเคลื่อนการลดปัญหาฝุ่นควันอย่างยั่งยืน
วันนี้ (25 พ.ย.2567) นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า สถานการณ์ปัญหาฝุ่นควันภาคเหนือ ที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว สังคม เศรษฐกิจ รวมถึงสุขภาพของพี่น้องประชาชน ซึ่งมีหลายสาเหตุปัจจัย อาทิ การเผาหญ้าข้างทาง การเผาซากพืชทางการเกษตรในพื้นที่โล่ง ถือเป็นปัญหาหนึ่งที่ต้องแก้ไขอย่างจริงจัง
ทั้งนี้ ภาครัฐต้องร่วมกันประชาสัมพันธ์อย่างเข้มข้น เพื่อสร้างความตระหนักรู้ต่อเกษตรกรและประชาชนในพื้นที่ให้หยุดการเผาพื้นที่การเกษตรและพื้นที่ป่า สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาฝุ่นควันทางภาคเหนือที่ถูกต้องและสร้างความร่วมมือของประชาชนอย่างต่อเนื่อง ตนจึงได้ให้นโยบายกับ วิทยุการบิน ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคม ที่มีสำนักงานในเขตพื้นที่ภาคเหนือ ดำเนินการช่วยรณรงค์ประชาสัมพันธ์เพื่อร่วมกันในการบรรเทาปัญหามลพิษด้านฝุ่นควัน
ด้าน นายณพศิษฏ์ จักรพิทักษ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) กล่าวว่า บวท. ได้ตระหนักถึงปัญหาฝุ่นควัน ที่ส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วน พร้อมแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม โดยร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบรรเทาปัญหาฝุ่นควันและลดการเผาในเขตพื้นที่ภาคเหนือ 2 โครงการ ได้แก่
1.โครงการแก้ไขปัญหาฝุ่นควัน PM2.5 ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สนับสนุนกระบวนการขนย้ายเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ออกจากแปลง นำร่องพื้นที่ไม่เกิน 1,000 ไร่ ต.จางเหนือ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง
2.โครงการหมู่บ้านปลอดการเผาครั้งที่ 3 ร่วมกับ บริษัท เชียงใหม่วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด สนับสนุนรางวัลหมู่บ้านปลอดการเผาให้กับหมู่บ้านที่เข้าร่วมโครงการในขนาดพื้นที่ 2,000 ไร่
บวท. ขอร่วมเป็นองค์กรหนึ่งในการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นควัน พร้อมขับเคลื่อนร่วมกับเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อส่งเสริมแนวทางการป้องกันและลดปัญหาฝุ่นควันอย่างยั่งยืน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน สร้างสิ่งแวดล้อมที่มีคุณภาพ พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องต่อไป