“สุริยะ” ลั่น! เดินหน้ามาตรการ “สมุดพกผู้รับเหมา” พบทำผิด พร้อมฟันคะแนน – ลดชั้น – ถอดจากทะเบียน เตรียมเข้าหารือกรมบัญชีกลางเร็วๆนี้ เผยวันที่ 26 ธ.ค.67 – 2 ม.ค.68 สั่งหยุดก่อสร้างตลอดแนวถนนพระราม 2 หวังอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน
วันนี้ (5 ธันวาคม 2567) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า จากเหตุการณ์ความเสียหายกรณีชิ้นส่วนสะพานที่ก่อสร้างถล่มบนถนนพระราม 2 ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน ขณะนี้ได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมที่มีงานก่อสร้าง เช่น กรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟทม.) ร่วมกัน เร่งพิจารณาให้ความเห็นต่อร่างระเบียบกระทรวงการคลังในการประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้รับเหมา เพื่อเข้าหารือกับกรมบัญชีกลางถึงแนวทางจัดทำมาตรการ “สมุดพกผู้รับเหมา” เพื่อให้ออกมาเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด
โดยเบื้องต้น มาตรการดังกล่าว นอกจากจะปรับเงินสูงสุดตามกฎหมายและตัดสิทธิในการเข้าร่วมประมูลงานแล้ว จะเพิ่มการ “ตัดคะแนน” ด้วย ซึ่งหากไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด จะพิจารณาลดชั้นผู้รับเหมา รวมถึงการถอดรายชื่อออกจากทะเบียนผู้รับเหมาที่มีสิทธิเข้าประมูลโครงการของภาครัฐทันที โดยภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์นี้ จะเร่งสรุปความเห็นต่อร่างระเบียบกระทรวงการคลังดังกล่าว เพื่อนำไปพูดคุยรายละเอียดเพิ่มเติมกับกรมบัญชีกลาง เพื่อหาข้อสรุปให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
สำหรับการก่อสร้างทุกโครงการบนถนนเส้นพระราม 2 ภายในช่วงวันที่ 26 ธันวาคม 2567 – 2 มกราคม 2568 กระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้ระงับการดำเนินการทั้งหมด พร้อมคืนผิวถนนในการสัญจรให้ได้มากที่สุด เพื่อต้องการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ใช้เส้นทาง พร้อมแนะนำประชาชนศึกษาเส้นทางก่อนเดินทางเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดช่วงเทศกาลปีใหม่
ด้าน นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่า ความคืบหน้าเหตุการณ์ชิ้นส่วนสะพานที่ก่อสร้างถล่มบนถนนพระราม 2 ว่า ตามที่ได้รับมอบหมายจาก นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้เร่งดำเนินการตรวจสอบสาเหตุที่เกิดขึ้น ขณะนี้ ทล. ได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเชิญผู้แทนจากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) และสภาวิศวกร ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธา เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการฯ เพื่อร่วมหาสาเหตุ โดยจะทราบผลการตรวจสอบภายใน 14 วัน
ทั้งนี้ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมทุกด้าน ทล. และ วสท. ได้ร่วมมือกันในด้านต่าง ๆ ได้แก่ การวางแผนการเคลื่อนย้ายชิ้นส่วนโครงสร้างเหล็กและคอนกรีตออกจากพื้นที่ โดยร่วมกับคณะอนุกรรมการสาขาโครงสร้างและสะพาน และคณะอนุกรรมการสาขาวิศวกรรมยกหิ้วและปั้นจั่น วสท. การบินโดรนสำรวจความเสียหายของโครงสร้างเหล็กโดยละเอียดร่วมกับวิศวกร ทล. การร่วมประชุมวางแผนเพื่อหาข้อสรุปในการกำหนดจุดติดตั้งเครนกับทีมงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย และการกำกับดูแลการดำเนินการทั้งหมดร่วมกับทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
โดยความคืบหน้าล่าสุดกรณีการเคลื่อนย้ายชิ้นส่วนโครงสร้างเหล็กและคอนกรีตนั้น ขณะนี้ทีมวิศวกรสามารถยกชิ้นส่วนสะพานคอนกรีต (Segment) จำนวน 3 ก้อน ที่ติดค้างอยู่ด้านบนลงมาได้อย่างปลอดภัยแล้ว และจะรื้อในส่วนของโครงสร้างเหล็กต่อไป โดยตามกำหนดนั้น จะแล้วเสร็จภายใน 14 วัน และหลังจากนั้นพร้อมเปิดให้ประชาชนได้จราจรได้ตามปกติ ทั้งเส้นหลักและเส้นคู่ขนานของทางหลวงหมายเลข 35