“กรมทางหลวงชนบท” เร่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ นำเครื่องมือเครื่องจักร ทำความสะอาดกำจัดดินโคลนเศษไม้เศษวัสดุ บนถนน/สะพาน หลังน้ำลดในพื้นที่ แพร่ – น่าน บรรเทาความเดือดร้อนประชาชนในพื้นที่สัญจรได้สะดวก ปลอดภัย พร้อมเผยเส้นทางที่ประสบอุทกภัยขณะนี้ผ่านไม่ได้ 12 สายทาง
วันนี้ (29 ก.ค.2568) นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ระบุว่า ขณะนี้ในส่วนของกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ยังได้กำชับสำนักงานทางหลวงชนบท (สทช.) และแขวงทางหลวงชนบท (ขทช.) ในพื้นที่ที่กำลังประสบเหตุน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้หน่วยงานในสังกัดได้ปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลัง ซึ่งในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และบริเวณด้านรับลมมรสุมยังมีฝนตกหนักบางแห่ง
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ทช. ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องมือเครื่องจักร ดำเนินการทำความสะอาดกำจัดดินโคลนเศษไม้และเศษวัสดุบนผิวจราจร ในพื้นที่จังหวัดแพร่ และ จังหวัดน่าน บริเวณที่น้ำได้ลดลงแล้ว เพื่อให้ประชาชนสัญจรได้อย่างสะดวกปลอดภัยและกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว นอกจากนี้ยังได้เน้นย้ำในเรื่องการบูรณาการร่วมกับจังหวัดอย่างเต็มที่ ทั้งการสนับสนุนกำลังคน รถบรรทุกน้ำ การบริหารจัดการเส้นทางและอำนวยความสะดวกให้ประชาชน ตลอดจนการส่งมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคเพื่อส่งต่อให้ผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
สำหรับสถานการณ์อุทกภัยในขณะนี้ สำนักบำรุงทาง รายงานว่า (วันที่ 29 ก.ค.2568 เวลา 10.00 น.) ได้รับผลกระทบรวม 8 จังหวัด ประกอบด้วย พะเยา น่าน เชียงราย เชียงใหม่ แพร่ สุโขทัย ตาก อุบลราชธานี รวม 38 สายทาง สามารถสัญจรผ่านได้ 26 สายทาง และไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 12 สายทาง ซึ่งสายทางที่ไม่สามารถสัญจรผ่านได้มีดังนี้
1.ถนนทางหลวงชนบทสาย ชร.4008 แยก ทล.1020 (กม.ที่ 87+200) – บ้านศรีสะอาด อำเภอขุนตาล, พญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย (ช่วง กม.ที่ 4+100 – 4+500)
2.ถนนทางหลวงชนบทสาย ชร.5031 แยก ทช.ชร.4014 (กม.ที่ 0+700) – บ้านช่อใต้ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย (ช่วง กม.ที่ 5+100 – 5+300)
3.ถนนทางหลวงชนบทสาย พย.4029 แยก ทล.1148 (กม.ที่ 95+225) – โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามพระราชดำริบ้านหนองห้า อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา (ช่วง กม.ที่ 8+900 – 9+000 , ช่วง กม.ที่ 10+850 – 10+950 , ช่วงกม.ที่ 11+700 – 11+900 และ ช่วง กม.ที่ 12+900 – 13+000)
4.ถนนทางหลวงชนบทสาย พร.4008 แยก ทล.1124 (กม.ที่ 19+000) – บ้านวังแฟน อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ (ช่วง กม.ที่ 16+750 – 16+810)
5.สะพานข้ามแม่น้ำยม (สาย พร.001) อำเภอหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่ (ช่วง กม.ที่ 0+485 – 1+185)
6.ถนนเชิงลาดสะพานข้ามแม่น้ำยม (สาย พย.002) อำเภอปง จังหวัดพะเยา (ช่วง กม.ที่ 0+000 – 1+100)
7.ถนนเชิงลาดสะพานวังม่วงพัฒนา (สาย นน.017) อำเภอปัว จังหวัดน่าน (ช่วง กม.ที่ 0+600 – 0+700)
8.ถนนทางหลวงชนบทสาย ตก.3002 แยก ทล.105 (กม.ที่ 4+000) – บ้านวังแก้ว อำเภอแม่สอด, แม่ระมาด จังหวัดตาก (ช่วง กม.ที่ 11+950 – 12+000 , ช่วง กม.ที่ 12+100 – 12+150 และ ช่วง กม.ที่ 16+500 – 16+550)
9.ถนนทางหลวงชนบทสาย ตก.3006 แยก ทล.104 (กม.ที่ 9+025) – บ้านวังผา อำเภอแม่สอด, แม่ระมาด จังหวัดตาก (ช่วง กม.ที่ 7+290 – 7+300)
10.ถนนทางหลวงชนบทสาย สท.4010 แยก ทล.1177 (กม.ที่ 13+300) – บ้านห้วยไม้ อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย (ช่วง กม.ที่ 4+000 – 4+150, ช่วง กม.ที่ 15+800 – 16+100, ช่วง กม.ที่ 17+300 – 17+450 และ ช่วง กม.ที่ 18+150 – 18+265)
11.ถนนเชิงลาดสะพานรักษ์ลำน้ำยม (สาย สท.011) อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย (ช่วง กม.ที่ 0+000 – 0+100)
12.ถนนทางหลวงชนบทสาย สท.4053 แยก ทล.1180 (กม.ที่ 11+650) – บ้านคลองมะพลับ อำเภอศรินคร จังหวัดสุโขทัย (ช่วง กม.ที่ 0+500 – 0+800)
สำหรับในพื้นที่ที่ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ทช. ได้ติดตั้งป้ายเตือน ป้ายบอกระดับน้ำ และปักเสาตามแนวเขตทาง เรียบร้อยแล้ว หากระดับน้ำลดลงจะเร่งดำเนินการประเมินสถานการณ์และเร่งเข้าซ่อมแซมเบื้องต้นโดยเร็วที่สุดต่อไป โดยประชาชนสามารถแจ้งเหตุอุทกภัยได้ที่แขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่หรือสายด่วนกรมทางหลวงชนบท 1146