“กรมทางหลวงชนบท” ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง จัดเจ้าหน้าที่ลาดตระเวน เตรียมเครื่องมือเครื่องจักร ยานพาหนะ เพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุ พร้อมเร่งจัดการสายทางที่ได้รับผลกระทบจากดินสไลด์ในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน
วันนี้ (2 ตุลาคม 2568) นายพิชิต หุ่นศิริ รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ระบุว่า ขณะนี้ในบางพื้นที่ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้ประชาชนเดินทางด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง สำหรับในส่วนของกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ยังได้กำชับสำนักงานทางหลวงชนบท (สทช.) และแขวงทางหลวงชนบท (ขทช.) ในพื้นที่ที่กำลังประสบเหตุน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้หน่วยงานในสังกัดได้ปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลัง เพื่ออำนวยความปลอดภัยในการสัญจรของประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่สภาวะปกติ อาทิ
สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 10 (เชียงใหม่) โดยแขวงทางหลวงชนบทแม่ฮ่องสอน ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องจักร ลงพื้นที่จัดการถนนที่ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนบัวลอยในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ดินโคลนสไลด์ลงมายังบริเวณสายทาง
นอกจากนี้ยังได้ตรวจสอบโครงข่ายทางหลวงชนบทในพื้นที่อำเภอแม่สะเรียง ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำไหลกัดเซาะคันทาง คอสะพาน และไหล่ทางชำรุด ทำให้บางเส้นทางไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ซึ่งเบื้องต้นได้นำป้ายเตือน กรวย แบริเออร์ อุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย เพื่อปิดการจราจรชั่วคราวเรียบร้อยแล้ว
ปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัยของ ทช. สำนักบำรุงทาง รายงานว่า มีโครงข่ายในความรับผิดชอบของ ทช. ประสบอุทกภัยใน 22 จังหวัด รวม 51 สายทาง (อุตรดิตถ์, เพชรบูรณ์, แพร่, พะเยา, แม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่, กาฬสินธุ์, มหาสารคาม, เลย, อุดรธานี, อุบลราชธานี, จันทบุรี, ชลบุรี, ปราจีนบุรี, นครสวรรค์, พิจิตร, พิษณุโลก, ราชบุรี, ลพบุรี, สมุทรปราการ, สุโขทัย, พระนครศรีอยุธยา) แบ่งเป็นสามารถสัญจรผ่านได้ 33 สายทาง ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 18 สายทาง
- สะพานข้ามแม่น้ำยม (สาย พร.001) อ.หนองม่วงไข่ จ.แพร่ กม.ที่ 0+485 – 1+185 น้ำกัดเซาะคอสะพานขาด
- ถนนทางหลวงชนบทสาย มส.4011 แยก ทล.1194 (กม.ที่ 1+500) – บ้านป่าเหว อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน กม.ที่ 8+450 – 8+500, 5+800 – 5+850 น้ำกัดเซาะคอสะพานขาด
- สะพานบ้านป่าปุ๊ (สาย มส.014) อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน กม.ที่ 0+000 – 0+000 สะพานชำรุดเสียหาย
- ถนนทางหลวงชนบทสาย อต.5054 บ้านปากปาด ต.ผาเลือด อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ ช่วง กม.ที่ 10+550 ระดับน้ำ 10 เซนติเมตร
- ถนนทางหลวงชนบทสาย อต.2002 แยก ทล.11 (กม.ที่ 291+008) – บ้านแก่ง อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ กม.ที่ 2+600 – 3+000 ระดับน้ำ 55 เซนติเมตร
- ถนนทางหลวงชนบทสาย อต.2029 แยก ทล.11 (กม.ที่ 298+008) – บ้านน้ำลอก อ.ตรอน, ทอง, แสนขัน จ.อุตรดิตถ์ กม.ที่ 4+700 – 4+750 ระดับน้ำ 50 เซนติเมตร
- สะพานแม่น้ำยม (สาย พย.002) อ.ปง จ.พะเยา กม.ที่ 0+300 – 0+700 น้ำไหลกัดเซาะผิวจราจรและคันทาง
- สะพานบ้านวังปรากฏ (สาย อต.004) อ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ ช่วง กม.0+000 – 0+200 ระดับน้ำ 70 เซนติเมตร
- ถนนทางหลวงชนบทสาย อด.4013 แยก ทล.2376 (กม.ที่ 16+375) – บ้านนาตูม อ.นายูง จ.อุดรธานี กม.ที่ 12+400 – 12+405 น้ำหลาก
- ถนนทางหลวงชนบทสาย อด.4082 แยก ทล.2025 (กม.ที่ 13+110) – บ้านท่าลี่ อ.กุมวาปี จ.อุดรธานี ช่วง กม.ที่ 19+600 – 19+630 น้ำหลาก
- ถนนทางหลวงชนบทสาย นว.3102 แยก ทล.117 (กม.ที่ 16+150) – บ้านเนิน อ.เก้าเลี้ยว, ชุมแสง จ.นครสวรรค์ กม.ที่ 8+020 – 11+100 ระดับน้ำ 80 เซนติเมตร
- ถนนทางหลวงชนบทสาย พจ.4021 แยก ทล.1289 (กม.ที่ 10+060) – บ้านไผ่ท่าโพใต้ อ.บึงนาราง, โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร กม.ที่ 7+000 – 8+500 ระดับน้ำ 35 เซนติเมตร
- ถนนทางหลวงชนบทสาย พจ.5022 เชื่อมถนนเทศบาลตำบลโพทะเล – บ้านบางพล้อ อ.โพทะเล จ.พิจิตร กม.ที่ 3+051 – 6+951 ระดับน้ำ 25 เซนติเมตร
- ถนนทางหลวงชนบทสาย พล.4028 แยก ทล.1143 (กม.ที่ 40+300) – บ้านแก่งบัวคำ อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก กม.ที่ 1+500 – 3+520 ระดับน้ำ 100 เซนติเมตร
- สะพานหัวเวียง (สาย อย.020) อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา กม.ที่ 0+000 – 0+350 น้ำหลาก
- สะพานวัดบันไดช้าง (สาย อย.016) อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา กม.ที่ 0+000 – 0+020 น้ำหลาก
- สะพานบางเคียน (สาย นว.017) อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ กม.ที่ 0+700 – 1+930 น้ำไหลกัดเซาะผิวจราจรและคันทาง
- สะพานข้ามคลองบางหลวง (สาย อย.030) อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา กม.ที่ 0+000 – 0+683 น้ำหลาก ระดับน้ำสูง 116 เซนติเมตร
ทั้งนี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและอำนวยความสะดวกปลอดภัยในการสัญจรให้กับพี่น้องประชาชน ทช. ยังได้เฝ้าระวังถนนที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุดินสไลด์ในโครงข่ายสายทางที่อยู่ในความรับผิดชอบ โดย ทช. จะรายงานสถานการณ์ให้ประชาชนได้รับทราบเป็นระยะ และขอความร่วมมือประชาชนโปรดระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนเป็นพิเศษและโปรดสังเกตป้ายเตือน โดยสามารถแจ้งเหตุอุทกภัยได้ที่แขวงทางหลวงชนบททั่วประเทศหรือติดต่อสายด่วนกรมทางหลวงชนบท โทร. 1146