“กรมทางหลวงชนบท” ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานในพื้นที่ ส่งมอบถุงยังชีพให้ผู้ประสบอุทกภัยใน จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน พร้อมเร่งดำเนินการทำความสะอาดถนนใน จ.เพชรบูรณ์ ที่ระดับน้ำลดลงแล้ว ให้ประชาชนสามารถสัญจรได้อย่างสะดวกและปลอดภัย
วันนี้ (11 ต.ค.2568) นายพิชิต หุ่นศิริ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ระบุว่า ขณะนี้กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ได้เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนในหลายพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย พร้อมติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในโครงข่ายทางหลวงชนบทอย่างต่อเนื่องจนกว่าสภาพพื้นที่จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ อาทิ สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 1 (ปทุมธานี) โดยแขวงทางหลวงชนบทพระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังเกิดสถานการณ์น้ำท่วมที่ส่งผลกระทบต่อหลายพื้นที่
โดยได้จัดเตรียมถุงยังชีพจำนวน 500 ชุด ซึ่งภายในประกอบด้วยอาหารสำเร็จรูป น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็นต่าง ๆ เช่น ยารักษาโรค เครื่องอุปโภคบริโภค และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกพื้นฐาน เร่งส่งมอบให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตได้อย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางสถานการณ์อุทกภัยที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่และความปลอดภัยของประชาชน ในการนี้ได้ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานท้องถิ่น และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อบต.บ้านแพน อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อจัดลำดับพื้นที่ที่ต้องได้รับความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
นอกจากนี้ สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 9 (อุตรดิตถ์) โดยแขวงทางหลวงชนบทเพชรบูรณ์ ได้จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่บนถนนทางหลวงชนบทสาย พช.2065 แยก ทล.12 – เขตเทศบาลเมืองหล่มสัก และ ถนนทางหลวงชนบทสาย พช.2044 แยก ทล.21 – บ้านโพธิ์ทอง อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ หลังระดับน้ำเริ่มลดลง โดยเร่งดำเนินการทำความสะอาดถนน เก็บเศษวัสดุ ดินโคลน และสิ่งกีดขวางบนผิวจราจร เพื่อคืนความสะดวกและความปลอดภัยในการสัญจรให้แก่ประชาชน รวมถึงเพื่อสำรวจสภาพเส้นทาง ตรวจสอบความเสียหายของถนน สะพาน และโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ เพื่อวางแผนฟื้นฟูอย่างทันท่วงทีและให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้เส้นทางได้ตามปกติ
กรมทางหลวงชนบท โดยสำนักบำรุงทางรายงานว่า ปัจจุบันมีโครงข่ายที่ได้รับผลกระทบประสบอุทกภัยใน 9 จังหวัด โดยได้รับผลกระทบ 33 สายทาง แบ่งเป็น สัญจรผ่านได้ 18 สายทาง และไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 15 สายทาง อย่างไรก็ตาม ทช. ได้จัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดเฝ้าระวังและรายงานระดับน้ำอย่างต่อเนื่อง พร้อมเตรียมเครื่องจักรและอุปกรณ์ช่วยเหลือไว้พร้อม หากระดับน้ำลดลงจนปลอดภัยจะเร่งดำเนินการตรวจสอบสภาพทางและเปิดการจราจรโดยเร็ว ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีน้ำท่วม และติดตามประกาศแจ้งเตือนจากหน่วยงานอย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง โดยประชาชนสามารถแจ้งเหตุอุทกภัยได้ที่แขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่หรือสายด่วนกรมทางหลวงชนบท 1146