“กรมการขนส่งทางบก” ขานรับนโยบาย “พิพัฒน์” เปิดรับผู้ประกอบการรถสาธารณะทั่วประเทศเข้าร่วม “คนละครึ่งพลัส” ลดภาระค่าเดินทางให้ประชาชน
กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กระทรวงคมนาคม ภายใต้การกำกับดูแลของ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เดินหน้าขานรับนโยบายรัฐบาล ดำเนินการตามโครงการ “คนละครึ่งพลัส” เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชน โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการเดินทาง พร้อมเปิดรับผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม – 19 ธันวาคม 2568
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า โครงการ “คนละครึ่งพลัส” เป็นนโยบายที่รัฐบาลตั้งใจช่วยประชาชนลดภาระค่าใช้จ่าย พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจในวงกว้าง โดยเฉพาะภาคการเดินทาง ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายสำคัญในชีวิตประจำวัน กระทรวงคมนาคมจึงเร่งขับเคลื่อนให้ทุกภาคส่วนในระบบขนส่งสาธารณะสามารถเข้าร่วมโครงการได้จริง เพื่อให้ประชาชน “เดินทางจ่ายครึ่งเดียว” ขณะเดียวกัน ยังสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบอาชีพขับรถสาธารณะทั่วประเทศอย่างทั่วถึง “คนละครึ่งพลัส“ ไม่ได้เป็นเพียงโครงการลดค่าครองชีพเท่านั้น แต่ยังเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยในภาคขนส่งให้มีรายได้ที่มั่นคงมากขึ้น ขณะเดียวกันยังส่งเสริมให้ระบบขนส่งของประเทศก้าวเข้าสู่ระบบดิจิทัลที่โปร่งใสและตรวจสอบได้
นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า โครงการนี้ถือเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาล ภาคเอกชน และผู้ให้บริการขนส่ง เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดจากนโยบาย “จ่ายครึ่งเดียว” โดยรัฐร่วมจ่ายอีกครึ่งหนึ่ง ผ่านระบบ “ถุงเงิน – เป๋าตัง” ของธนาคารกรุงไทย ขณะเดียวกันยังเป็นการส่งเสริมให้ผู้ให้บริการรถสาธารณะเข้าสู่ระบบการชำระเงินแบบดิจิทัล ลดการใช้เงินสด และสร้างมาตรฐานใหม่ในการให้บริการขนส่งสาธารณะ
ด้าน นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวว่า กรมฯได้เตรียมความพร้อมในการรับสมัครผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะเข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่งพลัส” โดยเปิดให้ลงทะเบียนได้ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม – 19 ธันวาคม 2568 พร้อมกำหนดคุณสมบัติเบื้องต้นของผู้เข้าร่วมดังนี้
- รถจักรยานยนต์สาธารณะ ต้องมีใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์สาธารณะ และบัตรประจำตัวผู้ขับรถ
- รถตุ๊กตุ๊ก (สามล้อยนต์) ต้องมีใบอนุญาตขับรถยนต์สามล้อสาธารณะ
- รถแท็กซี่ ต้องมีใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ (ประเภท ท.1–ท.4) และบัตรประจำตัวผู้ขับรถ
- รถสองแถวและรถตู้โดยสาร ต้องมีใบอนุญาตขับรถประเภท ท.1–ท.4
- รถโดยสารประจำทาง ต้องมีใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทาง
- รถโดยสารประจำทางหรือไม่ประจำทางที่เป็นนิติบุคคลรายเล็ก ต้องมีใบอนุญาตประกอบการขนส่งสาธารณะ และมีรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี ตามแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ (ภ.ง.ด.50) รอบบัญชีปี 2567
สำหรับขั้นตอนการลงทะเบียนร้านค้าใหม่ มีดังนี้
- สมัครเป็นร้านค้าถุงเงินของธนาคารกรุงไทย ผ่านเว็บไซต์ www.ถุงเงินกรุงไทย.com
- ยื่นใบสมัครเข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่งพลัส.com
- เตรียมเอกสาร ได้แก่ ใบสมัคร บัตรประชาชน และรูปถ่ายร้านค้าพร้อมเจ้าของร้าน
- ยื่นเอกสารที่สาขาธนาคารกรุงไทยทุกแห่ง
- เมื่อได้รับอนุมัติ ระบบจะปรากฏเมนู “คนละครึ่งพลัส” ในแอปพลิเคชันถุงเงิน
นายสรพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการขนส่งทางบกจะเร่งประชาสัมพันธ์เชิงรุก เพื่อให้ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการมากที่สุด พร้อมประสานกับสำนักงานขนส่งจังหวัดทุกแห่งให้จัดเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำและอำนวยความสะดวกแก่ผู้สมัคร เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากโครงการนี้อย่างทั่วถึง
ทั้งนี้ประชาชนและผู้ประกอบการสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1–5 และสำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ หรือโทรสายด่วน 1584