“กรมทางหลวงชนบท” เคียงข้างผู้ประสบภัย ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมเร่งเคลื่อนย้ายต้นไม้ที่สไลด์กีดขวางถนนเพื่อให้ประชาชนสัญจรผ่านได้ ควบคู่กับการติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิดและเตรียมเครื่องมือเครื่องจักรเพื่อเข้าฟื้นฟูถนนทันทีหลังน้ำลด

นายพิชิต หุ่นศิริ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ระบุว่า จากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ขณะนี้ในส่วนของกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ยังได้เน้นย้ำหน่วยงานในพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคใต้อย่างต่อเนื่อง ทั้งการมอบถุงยังชีพ อาหาร น้ำดื่ม และการนำรถบรรทุกเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่รถขนาดใหญ่ยังสัญจรผ่านได้ อาทิ

สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 14 (กระบี่) และแขวงทางหลวงชนบทตรัง แขวงทางหลวงชนบทพัทลุง ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ ข้าวสาร อาหารแห้ง เพื่อเป็นการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ของแขวงทางหลวงชนบทพัทลุงและประชาชนที่มาพักอาศัยอยู่บนถนนทางหลวงชนบทสาย พท.1017 แยก ทล.4 บ้านเขาชัยสน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง และได้ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ ข้าวสาร อาหารแห้ง เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นให้แก่ประชาชนที่มาพักอาศัยอยู่บนถนนทางหลวงชนบทสาย ตง.1037 แยก ทล.4 บ้านนาตาขำ อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง และบริเวณสะพานชุมชนสาย ตง.019 (สะพานอ้ายเต็ง-วังหิน) อำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง พร้อมทั้งได้พบปะพูดคุยกับประชาชนในเรื่องที่ต้องการความช่วยเหลือและให้กำลังใจอีกด้วย

ในส่วนของสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 12 (สงขลา) และแขวงทางหลวงชนบท (ขทช.) ในสังกัด ประกอบด้วย ขทช.ยะลา ขทช.ปัตตานี ขทช.สงขลา ขทช.สตูล และ ขทช.นราธิวาส โดยได้ติดตามเหตุน้ำท่วมอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ลาดตระเวน เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง และเข้าตรวจสอบความปลอดภัยของอุปกรณ์ไฟฟ้าบนสายทาง การติดตั้งป้ายเตือน ติดตั้งเสาขาวแดงตามแนวเขตทาง รวมไปถึง ขทช.ปัตตานี ได้เร่งเคลื่อนย้ายต้นไม้ที่สไลด์กีดขวางการจราจรเพื่อความสะดวกปลอดภัยของผู้ใช้ทางอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ทช. จะเตรียมเครื่องมือเครื่องจักรเพื่อเข้าซ่อมแซมฟื้นฟูสายทางที่ได้รับผลกระทบทันทีหลังน้ำลด เพื่ออำนวยความสะดวกปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้เส้นทางโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ ปัจจุบัน (เวลา 08.30 น.) โครงข่ายทางหลวงชนบทในภาคใต้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย รวม 104 สายทาง แบ่งเป็น สัญจรผ่านได้ 54 สายทาง และไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 50 สายทาง หากประชาชนต้องการแจ้งเหตุอุทกภัยและขอความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกรมทางหลวงชนบท 1146

![]()
