Transport

เร่งสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง-ขุดลอกร่องน้ำ เพิ่มประสิทธิภาพการเดินเรือลุ่มแม่น้ำป่าสัก “อยุธยา”

“ศักดิ์สยาม” เช็กความคืบหน้าโครงการพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพการเดินเรือลุ่มแม่น้ำป่าสัก จ.พระนครศรีอยุธยา ลุยสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง-ขุดลอกร่องน้ำช่วงที่ขนส่งสินค้าหนาแน่น บริเวณวัดพนัญเชิงวรวิหาร-วัดพระนอน อ.นครหลวง รองรับเรือขนาด 2,500 ตัน หรือเรือกินน้ำลึกไม่เกิน 5 เมตร หนุนเศรษฐกิจ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

เมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคม และ หน่วยงานในสังกัด  ลงพื้นที่ตรวจราชการ ติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพการเดินเรือลุ่มแม่น้ำป่าสัก รวมไปถึงโครงการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมด้านต่างๆ ของพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา

ตามนโยบายของรัฐบาล ที่สั่งการให้เร่งรัดพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ให้ครอบคลุมทุกมิติ เพื่อให้ประชาชนมีความสะดวก ปลอดภัยในการเดินทางและการขนส่งสินค้า สามารถเข้าถึงการให้บริการได้อย่างเท่าเทียม สนับสนุนการค้า การท่องเที่ยวสู่การพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่และเศรษฐกิจของประเทศ โดยกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการตามนโยบาย โดยมอบให้หน่วยงานในสังกัดกรมเจ้าท่าเร่งรัดขับเคลื่อนพัฒนาระบบคมนาคมทางน้ำ เพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งทางน้ำ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่

สำหรับการดำเนินงานของกรมเจ้าท่า ได้ดำเนินงาน ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในการดูแลประชาชน ตลอดริมสองฝั่งแม่น้ำป่าสัก ไม่ให้มีผลกระทบ จากการเพิ่มประสิทธิภาพการเดินเรือ  ซึ่งแม่น้ำป่าสักเป็นแม่น้ำสายหลักที่มีความสำคัญต่อการขนส่งภายในประเทศ รองรับการขนส่งสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมทางภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงได้ดำเนินการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเดินเรือในแม่น้ำป่าสักผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาออกสู่ทะเล รองรับการขนส่งสินค้าในแม่น้ำที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีต้นทุนต่ำ

โดยจะดำเนินการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งและขุดลอกปรับปรุงร่องน้ำช่วงที่มีการขนส่งสินค้าหนาแน่น ให้สามารถรองรับเรือขนาด 2,500 ตัน หรือเรือกินน้ำลึกไม่เกิน 5 เมตร เดินได้ตลอดความยาวตั้งแต่ กม. 0 บริเวณวัดพนัญเชิงวรวิหาร อ.พระนครศรีอยุธยา ถึง กม. 23 บริเวณวัดพระนอน อ.นครหลวง

แบ่งออกเป็น 2 ระยะ ระยะที่ 1 ดำเนินการแล้วเสร็จ 8.5 กิโลเมตร (กม.) ตั้งแต่ปี 2562 ส่วนระยะที่ 2 แบ่งการทำงานออกเป็น 8 ตอน โดยตอนที่ 1-2 ช่วง กม.0+000 ถึง กม.7+500 ความยาวเขื่อน 4,340 เมตร อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ตอนที่ 3 กม.6+600 ถึง กม.11+720 ความยาวเขื่อน 3,885 เมตร อยู่ระหว่างประกวดราคา และตอนที่ 4-8 กม.11+720 ถึง กม.23+000 ความยาวเขื่อน 14,500 เมตร อยู่ในแผนของบประมาณปี 2567 ถึง 2569

ซึ่งในการดำเนินโครงการนี้ นอกจากการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งพังให้กับชุมชนในพื้นที่แล้ว การใช้พื้นที่บนสันเขื่อนยังออกแบบให้เป็นพื้นที่สันทนาการ สำหรับรองรับการท่องเที่ยวและเป็นพื้นที่ใช้สอยสำหรับการออกกำลังกายในชุมชนที่ใช้ประโยชน์ร่วมกันด้วย เมื่อโครงการพัฒนาประสิทธิภาพการเดินเรือในแม่น้ำป่าสักแล้วเสร็จตามแผนพัฒนาจะเป็นการยกระดับเพิ่มศักยภาพในการขนส่งสินค้าทางน้ำในแม่น้ำป่าสักให้เป็นไปตามมาตรฐานเกิดความสะดวก ปลอดภัย ส่งผลต่อการขยายตัวเศรษฐกิจของประเทศ อีกทั้งประชาชน ในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจากการใช้ประโยชน์ของเขื่อนป้องกันตลิ่งใน การป้องกันความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในท้องถิ่นให้เกิดความเสมอภาคและเท่าเทียมกัน ท้ายสุดนี้ กรมเจ้าท่าต้องขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมที่ผลักดัน และติดตามโครงการดังกล่าว เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนริมฝั่งแม่น้ำและผู้ใช้ร่องน้ำอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้กำชับให้กรมเจ้าท่า เร่งดำเนินการตามมาตรฐานด้วยความปลอดภัยและเพื่อรองรับการขนส่งสินค้าในอนาคตได้เพิ่มมากขึ้น และบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินงานให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาทางน้ำ เพื่อเพิ่มศักยภาพและส่งเสริมความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ โดยมุ่งเน้นการดำเนินการด้วยความรวดเร็ว เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตและเกิดประโยชน์แก่ประชาชนสูงสุด สั่งให้มีการนำเรือไฟฟ้า (EV) มาใช้ในอนาคต และเน้นย้ำให้บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะในระดับจังหวัดและภาคประชาชนอย่างเข้มข้น โดยจะต้องเข้มงวดเรื่องความปลอดภัย ถูกต้องตามมาตรฐาน มีความทันสมัยมีอัตลักษณ์ที่ชัดเจน ไม่กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันของชาวบ้าน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และพร้อมพัฒนาชุมชนต่อไป

 

Loading

Back to top button