“กรมทางหลวง” ขอเคลียร์ปมจุดกลับรถใต้สะพานน้ำท่วมใช้งานไม่ได้ ทล.117 ตอนคลองพลังด้านใต้-เนินสว่าง จ.พิจิตร ลุยแก้ปัญหาเสริมความสูงกำแพง ป้องกันน้ำท่วม พ่วงติดเครื่องสูบน้ำช่วยระบายน้ำ เพิ่มประสิทธิภาพ-สะดวก-ปลอดภัย
แขวงทางหลวงพิจิตร สำนักงานทางหลวงที่ 5 (พิษณุโลก) ระบุว่า ขอชี้แจงกรณีที่กระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อโซเชียลเกี่ยวกับจุดกลับรถที่มีน้ำท่วมขัง ไม่สามารถใช้งานได้ พื้นที่รอยต่อ อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ กับ จ.พิจิตร เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา
จากการตรวจสอบจุดกลับรถที่เกิดเหตุนั้น เป็นโครงการเพิ่มประสิทธิความปลอดภัยบนทางหลวงประจำปีงบประมาณ 65 เป็นกิจกรรมยกระดับความปลอดภัยจุดกลับรถในระดับเดียวกัน ทางหลวงหมายเลข 117 ตอนคลองพลังด้านใต้-เนินสว่าง ตอน 2 ระหว่าง กม.38+700-กม.39+000 จ.พิจิตร โดยเริ่มต้นสัญญาวันที่ 28 ม.ค.-26 ก.ค.2565 ระยะเวลา 180 วัน งบประมาณ 8,996,000 บาท
สำหรับทางหลวงหมายเลข 117 ช่วงดังกล่าวมีขนาด 4 ช่องจราจร 2 ช่องจราจรต่อทิศทาง มีปริมาณการจราจรเฉลี่ย 17,000 คันต่อวัน เป็นเส้นทางหลักที่ใช้ในการเดินทางประชาชน จ.พิจิตร และเป็นเส้นทางที่ใช้การเดินทางจากภาคกลางสู่ภาคเหนือ บริเวณดังกล่าวเป็นเขตชุมชนมีจุดกลับรถบนทางหลวงมักเป็นบริเวณที่เกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิต เนื่องจากมีการตัดกระแสจราจร รวมทั้งมีการตัดข้ามจราจรระหว่างชุมชนสองข้างทาง ดังนั้นจึงมีแนวคิดในการปรับปรุงจุดกลับรถใต้สะพาน เพื่ออำนวยความสะดวกและปลอดภัยในการกลับรถ
ทั้งนี้ปกติจุดกลับรถจะใช้งานได้ตลอด โดยในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. เกษตรกรผู้ใช้น้ำมีความจำเป็นต้องจัดเก็บน้ำ เพื่อใช้ในการเกษตร จึงทำให้น้ำในลำคลองเอ่อล้น เข้ามาในผิวจราจรของจุดกลับรถเป็นระยะเวลา 2 เดือน นอกจากนี้ช่วงฤดูฝนที่มีระดับน้ำสูง 2-3 เดือน (ช่วงเดือน มิ.ย.-ส.ค.) โดยช่วงฤดูฝน วันที่มีฝนมาก มีการเฝ้าระวังโดยการติดตามด้วยกล้องวงจรปิด และจัดเจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงบึงนารางดำเนินการปิดช่องจราจรในช่วงที่ระดับน้ำสูงการจราจรผ่านไม่ได้ และติดป้ายประชาสัมพันธ์
อย่างไรก็ตามแขวงฯ ได้เตรียมแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยการเสริมความสูงของกำแพงให้สูงขึ้น ป้องกันน้ำท่วมช่องทางกลับรถ ในช่วงฤดูฝนหรือระดับน้ำสูง พร้อมติดตั้งระบบเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม เพื่อระบายน้ำ ส่วนกรณีเกิดเหตุน้ำท่วมจุดกลับรถจนไม่สามารถใช้งานได้ จะทำการปิดจุดกลับรถ และติดป้ายประชาสัมพันธ์ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ทาง
