Logistic

“เจ้าท่า” ลุยจัดระเบียบอู่ต่อเรือทั่วประเทศ เสริมแกร่งปลอดภัยทางน้ำ

“กรมเจ้าท่า” ลุยจัดระเบียบอู่ต่อเรือทั่วประเทศกว่า 256 ราย ผุดจัดทำคู่มือแนวทางการปฏิบัติงาน กำกับการปฏิบัติตาม เน้นอู่เรือที่ให้บริการเรือบรรทุกสินค้าอันตราย 6 เรื่อง ส่งเสริมมาตรฐานด้านความปลอดภัยทางน้ำทั้งระบบ

จากนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงคมนาคม ที่ได้มอบหมายให้กรมเจ้าท่า กำกับ ควบคุม ดูแลการประกอบกิจการอู่เรือทั่วประเทศให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยทางน้ำทั้งระบบ

นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) ด้านปลอดภัย เปิดเผยว่า จากกรณี เรือ สมูธ ซี 22 เกิดเหตุเพลิงไหม้ ขณะเรือจอดซ่อม ณ อู่เรือรวมมิตรด็อคยาร์ด แม่น้ำแม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม เมื่อวันที่ 17 ม.ค.2566 เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

โดยจากการตรวจสอบพบว่า อู่ต่อเรือดังกล่าว จดทะเบียนเป็นผู้ประกิจการอู่เรือแล้ว แต่เรือลำดังกล่าวจอดอยู่บริเวณท่าเทียบเรือของบริษัท รวมมิตรด็อคยาร์ค จำกัด จึงถือได้ว่าเป็นสถานที่สำหรับให้บริการแก่เดินเรือทะเลที่มีขนาดตั้งแต่ 500 ตันกรอสขึ้นไป โดยมิได้รับอนุญาตตามนัยข้อ 3 (9) และข้อ 4 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 เรื่องการควบคุมกิจการค้าขายอันกระทบถึงความปลอดภัยหรือผาสุกของประชาชนนั้น จึงสั่งการให้ กองกำกับการพาณิชยนาวี (กกพ.) กลุ่มกำกับกิจการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ และ จภ.1-7 เขต/สาขา ดำเนินการตรวจสอบอู่เรือทั้งหมด ว่ามีการอนุญาตถูกต้องหรือไม่ พร้อมทั้งให้ กกพ. จัดทำสรุปรายงานการดำเนินการเรื่องอู่เรือทั้งระบบ

จากการ ตรวจสอบข้อมูลในภาพรวม กองกำกับการพาณิชยนาวี กลุ่มกำกับกิจการขนส่งต่อเนื่อง รายงานในเบื้องต้นว่า จำนวนอู่เรือที่จดทะเบียนเป็นผู้ประกอบกิจการอู่เรือและได้รับหนังสืออนุญาตฯ ถูกต้องตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการพาณิชยนาวี พ.ศ.2521 ทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 256 ราย โดยมีอู่เรือที่ยังดำเนินการอยู่ 237 ราย และหยุดกิจการไปแล้ว 19 ราย

และได้เสนอมาตรฐานในการปฏิบัติงาน การจัดทำคู่มือแนวทางการปฏิบัติงาน (SOP) การกำกับการปฏิบัติตามของอู่เรือ โดยเน้นเฉพาะอู่เรือที่ให้บริการเรือบรรทุกสินค้าอันตราย จำนวน 6 เรื่อง ดังนี้ 1.เสนอให้มีการแก้ไขการปรับปรุงระเบียบ กฎหมาย ในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สอดคล้องกับการปฏิบัติงาน  2.ตรวจสอบสถานที่ตั้งกิจการอู่เรือ เพื่อพิจารณาประเด็นที่เกี่ยวกับทำเลที่ตั้ง ว่าเหมาะสมกับการประกอบกิจการหรือไม่ 3.ตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงในทุกกิจกรรมการปฏิบัติงานของอู่เรือ

4.ตรวจสอบใบอนุญาตที่เกี่ยวข้อง 5.จัดทำคู่มือวิธีปฏิบัติตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยในอู่เรือ และ 6.กำหนดให้มีหลักสูตรการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานประจำอู่เรือเกี่ยวกับความปลอดภัย เพื่อควบคุมกำกับมาตรฐานด้านความปลอดภัยในการทำงานตามระดับงานที่รับผิดชอบ โดยผู้ปฏิบัติงานประจำอู่เรือต้องผ่านการอบรม หลักสูตรเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงานตามระดับของงานที่รับผิดชอบ ทั้งนี้เพื่อให้การประกอบกิจการอู่เรือมี มาตรฐานด้านความปลอดภัย ลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุ ที่กระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินต่อไป

Loading

Back to top button