“ขนส่งฯ” เผยสถิติร้องเรียนรถสาธารณะวันที่ 1 ต.ค. 65-28 ก.พ.66 อยู่ที่ 17,548 เรื่อง แก้ไขแล้ว 14,747 เรื่องระบุทำผิด “แสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ” และ “ปฏิเสธ/ไม่หยุดรับ–ส่งผู้โดยสารที่ป้าย” มากสุด
นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และโฆษก ขบ. เปิดเผยว่า ขบ. ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ขับรถขนส่งและรถสาธารณะให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และสร้างพฤติกรรมการขับรถที่ถูกต้อง ลดพฤติกรรมเสี่ยงและกระทำผิด โดย ขบ. ดำเนินการติดตามและตรวจสอบการปฏิบัติงานผู้ขับรถโดยสารสาธารณะอย่างต่อเนื่อง
ได้รวบรวมสถิติการร้องเรียนผ่านศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 ในระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 65 – 28 ก.พ. 66 โดยมีเรื่องร้องเรียนทั้งหมด 17,548 เรื่อง และได้ดำเนินการแก้ไขเรื่องร้องเรียนแล้วเสร็จ 14,747 เรื่อง (84.04%) แบ่งออกเป็น
รถโดยสารสาธารณะตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ (รถแท็กซี่, รถสามล้อ, รถสี่ล้อเล็ก, รถจักรยานยนต์รับจ้าง ฯลฯ) จำนวน 11,071 เรื่อง ดำเนินการแก้ไขเรื่องร้องเรียนแล้วเสร็จ 9,539 เรื่อง (ร้อยละ 86.16%)
รถโดยสารสาธารณะตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก (รถเมล์, รถมินิบัส, รถตู้, รถสองแถว ฯลฯ) จำนวน 6,477 เรื่อง ดำเนินการแก้ไขเรื่องร้องเรียนแล้วเสร็จ 5,208 เรื่อง (ร้อยละ 80.41%)
5 ข้อหาที่มีการร้องเรียนมากที่สุด ตาม พ.ร.บ. รถยนต์ ได้แก่ 1.แสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ 2.ขับรถประมาทน่าหวาดเสียว 3.ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร 4.ใช้รถผิดประเภท (ป้ายดำ) และ 5.ไม่ใช้มาตรค่าโดยสาร
5 ข้อหาที่มีการร้องเรียนมากที่สุด ตาม พ.ร.บ. การขนส่งทางบก ได้แก่ 1.ปฏิเสธ/ไม่หยุดรรับ–ส่งผู้โดยสารที่ป้าย2.ขับรถประมาทน่าหวาดเสียว 3.แสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ 4.ใช้รถผิดประเภท (ป้ายดำ) และ 5.เก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่กำหนด
ทั้งนี้ เรื่องร้องเรียนรถอื่นๆ และรถส่วนบุคคล จำนวน 29,071 เรื่อง ดำเนินการแก้ไขเรื่องร้องเรียนแล้วเสร็จ จำนวน26,460 เรื่อง (91%)
ขบ. ได้ให้ความสำคัญในการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ในการแจ้งเบาะแสหรือข้อร้องเรียนต่าง ๆ ทั้งนี้ หากดำเนินการตรวบสอบข้อร้องเรียนต่าง ๆ ถ้าพบการกระทำผิดของรถโดยสารสาธารณะ จะนำระบบตัดคะแนนใบอนุญาตผู้ขับรถขนส่งและรถสาธารณะมาบังคับใช้
เพื่อหวังว่าจะสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยในการขนส่งทางถนนและการให้บริการผู้โดยสารรถสาธารณะ โดยผู้ขับรถบรรทุก รถโดยสาร รถแท็กซี่ รถสามล้อสาธารณะ รถจักรยานยนต์รับจ้าง ที่กระทำผิดตามข้อหาที่กำหนด และถูกตัดคะแนนตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก หรือตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ หากพบการกระทำผิดจนเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง จะดำเนินการถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ