“คมนาคม” รุกหนักรณรงค์ลดอุบัติเหตุ สงกรานต์ปลอดภัย
“คมนาคม” เปิดงานรณรงค์ลดอุบัติเหตุ สงกรานต์ปลอดภัย หยุดพฤติกรรมเสี่ยง เพื่อทุกชีวิตบนท้องถนน ด้าน “รฟท.” ย้ำความพร้อมรองรับการเดินทางด้วยรถไฟสูงสุดวันละแสนคน สะดวก เพียงพอ ปลอดภัย
วันนี้ (11 เม.ย.2566) นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดงานรณรงค์ลดอุบัติเหตุ “สงกรานต์ปลอดภัย หยุดพฤติกรรมเสี่ยง เพื่อทุกชีวิตบนท้องถนน” จัดโดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มูลนิธิเมาไม่ขับ ภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุภาครัฐ ภาคเอกชน โดยมี นายสมชาย สุมนัสขจรกุล น.ส.รัชนีพร ธิติทรัพย์ นายมนตรี เดชาสกุลสม ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ในฐานะประธานกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย นายเอก สิทธิเวคิน รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย พลตำรวจตรี ชัยรพ จุณณวัตต์ ผู้บังคับการตำรวจรถไฟ นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ผู้แทนภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุ ภาครัฐ ภาคเอกชน เหยื่อเมาแล้วขับ ผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุจราจร และสื่อมวลชน เข้าร่วมงาน ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
นายชยธรรม์ กล่าวว่า กิจกรรม“สงกรานต์ปลอดภัย หยุดพฤติกรรมเสี่ยง เพื่อทุกชีวิตบนท้องถนน” ในวันนี้เป็นกิจกรรมที่สำคัญ เพื่อสังคมในการรณรงค์เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางด้วยความปลอดภัย ซึ่ง รฟท. และมูลนิธิเมาไม่ขับได้ดำเนินการกิจกรรมนี้มาอย่างต่อเนื่องในทุกเทศกาลหลายปีติดต่อกัน ด้วยความปรารถนาร่วมกันที่จะให้ประชาชนได้เดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์ร่วมกับครอบครัวได้อย่างปลอดภัย แต่เนื่องจากในทุกปีที่ผ่านมาทุกช่วงเทศกาล ไม่ว่าจะเป็นปีใหม่หรือสงกรานต์ ที่มีช่วงวันหยุดยาวต่อเนื่องทำให้มีประชาชนเดินทางในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ส่งผลถึงการจราจรที่หนาแน่นและมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุมากว่าปกติ
ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมารัฐบาลได้ให้ความใส่ใจกับการแก้ปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นเรื่องหลักเพื่อจะลดความสูญเสีย กระทรวงคมนาคมจึงได้กำหนดเป็นยุทธศาสตร์ให้ทุกหน่วยงานในกำกับของกระทรวงคมนาคม เน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนทุกมิติ ทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ ทางอากาศ เป็นภารกิจหลักที่สำคัญ ดังนั้นความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนบนท้องถนนจึงถือเป็นหนึ่งในภารกิจที่สำคัญของทุกหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องและได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
แต่อย่างไรก็ตามการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปีที่ผ่านมา สถิติผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บยังสูงอยู่ ซึ่งจากที่เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ คุณหมอแท้จริง ศิริพานิช ได้รายงานจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2565 (11-17 เม.ย.2565) ที่ผ่านมาพบว่ามีผู้เสียชีวิตสูงถึง 278 คน บาดเจ็บ 1,869 คน นับเป็นความสูญเสียอย่างมหาศาลของประเทศ โดยสาเหตุสำคัญของการเกิดอุบัติเหตุเกิดจากพฤติกรรมของผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเมาแล้วขับ โทรแล้วขับ ง่วงแล้วขับ ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด ขับรถฝ่าฝืนกฎจราจร แม้หน่วยงานของภาครัฐจะดำเนินการด้วยมาตรการเชิงป้องกันและอำนวยความสะดวกอย่างไร แต่ความปลอดภัยของประชาชนจะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยความร่วมมือของประชาชนโดยเฉพาะผู้ขับขี่ยานพาหนะ ซึ่งทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึง NGO มูลนิธิต่าง ๆ ในสังคม จะต้องถือเป็นภารกิจร่วมกันในการรณรงค์ปลูกจิตสำนึกของผู้ขับขี่ยานพาหนะทั้งส่วนบุคคลและสาธารณะ ให้ตระหนักถึงหน้าที่ความรับผิดชอบที่ต้องเตรียมความพร้อมทั้งร่างกายของผู้ขับขี่และยานพาหนะควบคู่ไปกับจิตสำนึกในการใช้ถนนร่วมกัน ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการสร้างความปลอดภัยบนท้องถนน
นอกจากนี้ ภาครัฐโดยกระทรวงคมนาคมยังได้ร่วมกับทุกภาคส่วนกำหนดมาตรการสนับสนุนอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ทางในช่วงเทศกาล โดยได้ขอความร่วมมือกระทรวงมหาดไทยเพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกัน ในการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้ประชาชน เช่น
1.การขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่จะช่วยเจ้าหน้าที่ของ รฟท. ในการตราจสอบจุดตัดทางแยกระหว่างรถไฟกับถนน โดยเฉพาะในเส้นทางท้องถิ่นที่ห่างไกลเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางแยกของรถไฟและถนน
2.การให้ฝ่ายปกครองกำชับชุมชน ควบคุมกำกับดูแลกันเองในระดับต่าง ๆ อำเภอ ตำบลหมู่บ้าน และครอบครัวตนเอง ในการตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ให้อยู่ที่บ้าน โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ไม่ให้ออกมาใช้รถใช้ถนนโดยเด็ดขาด และเพื่อลดความแออัดของการจราจร รวมทั้งลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุ กรมการขนส่งทางบกได้ขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการสหพันธ์รถบรรทุก ให้ลดปริมาณการใช้ถนนของรถบรรทุกขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ในช่วงเทศกาลลง ให้เหลือไว้เฉพาะการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นเท่านั้น
ในส่วนของ รฟท. คาดว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้จะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวใช้บริการเดินทางด้วยรถไฟเป็นจำนวนมาก ในส่วนของขบวนรถที่ให้บริการเป็นประจำตั๋วโดยสารถูกจองเต็มหมดทุกชั้นทุกขบวน รฟท. จึงได้เตรียมมาตรการอำนวยความสะดวกรองรับการเดินทางของประชาชน โดยจัดขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสาร จำนวน 10 ขบวน ในเส้นทางสายเหนือ 5 ขบวน และสายตะวันออกเฉียงเหนือ 5 ขบวน สามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มประมาณ 8,000 คน/วัน นอกจากนี้ รฟท. ได้พ่วงตู้โดยสารในขบวนรถประจำ 222 ขบวน ให้เต็มกำลังหน่วยลากจูง พร้อมกับเร่งรัดการซ่อมบำรุงรถโดยสารเพื่อนำออกมาให้บริการเพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย.2566 รฟท. จะสามารถรองรับการเดินทางของผู้โดยสารได้สูงสุด 100,000 คนต่อวัน เพียงพอต่อการเดินทาง และไม่มีผู้โดยสารตกค้าง
ในขณะเดียวกัน รฟท. ได้เตรียมความพร้อมในการให้บริการเดินรถ และมาตรการดูแลความปลอดภัย รวมทั้งจัดตั้งศูนย์ปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2566 ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยได้เพิ่มกำลังพนักงาน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ ทั้งบนขบวนรถและสถานี พร้อมทั้งได้ประสานกับหน่วยงานท้องถิ่น อบต. อปพร. เพิ่มเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครประจำตามจุดตัดถนนเสมอระดับทางรถไฟ โดยเฉพาะทางผ่านที่เห็นว่ามีความเสี่ยงหรือมีสถิติอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ตรวจสภาพทางให้มีความมั่นคงปลอดภัยต่อการเดินรถ เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ สารเสพติดของพนักงานขับรถ เจ้าหน้าที่ประจำขบวนรถและประจำสถานีก่อนปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงห้ามจำหน่าย/ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนขบวนรถ และบริเวณสถานีรถไฟ
สำหรับผู้โดยสารที่มีความประสงค์จะเดินทางด้วยขบวนรถไฟทางไกลในเส้นทางสายเหนือ สายใต้ และสายตะวันออกเฉียงเหนือ กลุ่มขบวนรถด่วนพิเศษ รถด่วน รถเร็ว สามารถใช้บริการได้ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ซึ่งมีให้บริการ จำนวน 52 ขบวน ประกอบด้วย สายเหนือ 14 ขบวน สายใต้ 20 ขบวน และสายตะวันออกเฉียงเหนือ 18 ขบวน ซึ่ง รฟท. ได้มอบสิทธิให้ผู้โดยสารสามารถใช้ตั๋วโดยสารขบวนรถด่วนพิเศษ รถด่วน รถเร็ว รถธรรมดา และตั๋วเดือน เข้าใช้บริการรถไฟชานเมืองสายสีแดงที่สถานีดอนเมือง ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตามเงื่อนไขที่ระบุอยู่บนตั๋วโดยสาร
ในส่วนประชาชนที่ใช้บริการขบวนรถชานเมือง ขบวนรถธรรมดา และขบวนรถนำเที่ยวทุกสาย จำนวน 62 ขบวน ยังคงให้บริการต้นทาง – ปลายทางที่สถานีกรุงเทพเหมือนเดิม และเพื่อให้การเดินทางเชื่อมต่อ ไปยังสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ได้อย่างสะดวก รฟท. และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้จัดรถ Shuttle Bus ให้บริการรับ – ส่ง ฟรี เริ่มต้นจากสถานีกรุงเทพ-สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ จำนวน 2 เส้นทาง ประกอบด้วย เส้นทางด่วนพิเศษศรีรัช สถานีรถไฟกรุงเทพ – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และเส้นทางธรรมดาเดินทางเชื่อมต่อระหว่าง สถานีกรุงเทพ ยมราช โรงพยาบาลรามาธิบดี สถานีรถไฟสามเสน และสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ผู้โดยสารสามารถขึ้นรถได้ที่ป้ายรถเมล์สถานีรถไฟกรุงเทพ และบริเวณประตู 12 ของสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ซึ่งให้บริการฟรี ตั้งแต่เวลา 04.30-23.00 น. คันแรกจากสถานีกรุงเทพ และสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เวลา 04.30 น. (ในช่วงเวลาเร่งด่วน 04.30-10.00 น. และ 16.00-18.00 น. มีความถี่ในการปล่อยรถทุก 15 นาที)
ทั้งนี้ สามารถสอบถามตารางเวลารถ หรือข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเว็บไซต์ www.railway.co.th หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย