ปลอดภัยไว้ก่อน! แนะตรวจเช็กรถก่อนเดินทางวันหยุดยาวฉัตรมงคล
“กรมการขนส่งทางบก” ระบุเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางช่วงวันหยุดต่อเนื่องวันฉัตรมงคล แนะ!!! เจ้าของรถตรวจเช็กรถยนต์ด้วยตนเองก่อนเดินทาง หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง เช่น เมาแล้วขับ หรือใช้โทรศัพท์ขณะขับรถและใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด
นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และโฆษก ขบ. เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดต่อเนื่องวันฉัตรมงคลปี 2566 ระหว่างวันที่ 4-7 พ.ค.2566 คาดการณ์ว่าจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือเดินทางไปพักผ่อนท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ เป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้มีปริมาณรถบนท้องถนนหนาแน่น มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุบนถนนได้ โดยสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุคือความไม่สมบูรณ์ของรถยนต์ กระทรวงคมนาคมได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ประชาสัมพันธ์การเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทางและการใช้รถในช่วงวันหยุดยาวให้มีความปลอดภัย
ขอแนะนำให้เจ้าของรถตรวจเช็กรถให้มีความพร้อมก่อนออกเดินทาง ดังนี้ 1.ตรวจเช็กระบบเบรค 2.ตรวจระบบไฟฟ้ารถยนต์ 3.ตรวจเช็กระบบน้ำ 4.ตรวจเช็กระบบกรองอากาศและลมยาง 5.ตรวจเช็กระบบน้ำมันเชื้อเพลิงและไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง 6.ตรวจเช็กระดับน้ำมันเครื่อง 7.สังเกตเสียงเครื่องยนต์ เสียงท่อไอเสียและส่วนต่างๆ ว่ามีความดังผิดปกติหรือไม่ เพราะเสียงเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความผิดปกติของเครื่องยนต์ได้
ทั้งนี้แนะนำผู้ขับขี่ให้เลี่ยงพฤติกรรมที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุ ดังนี้ ขับรถโดยไม่ใช้ความเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งช่วงก่อนและขณะขับรถ รวมถึงควรหลีกเลี่ยงการทานยาที่มีฤทธิ์กดประสาท จำพวกยาแก้แพ้ ยาลดน้ำมูก ซึ่งส่งผลให้ความสามารถในการขับรถลดน้อยลง ไม่ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ไม่ว่าจะเป็นการกดรับโทรศัพท์หรือการพิมพ์ข้อความ หากมีความจำเป็นควรใช้อุปกรณ์เสริมในการสนทนาทางโทรศัพท์ อาทิ หูฟัง บลูทูธ หรือจอดรถคุยในบริเวณที่ปลอดภัย ไม่ขับรถขณะง่วงนอน
หากต้องขับรถระยะทางไกลหลายกิโลเมตรให้จอดพักรถบริเวณที่ปลอดภัย เพื่อเปลี่ยนอิริยาบถ หรือพักหลับ 10-15 นาที ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถจักรยานยนต์ต้องสวมหมวกนิรภัยทุกครั้ง และต้องเลือกใช้หมวกนิรภัยที่มีคุณภาพตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ซึ่งมีผลการศึกษาพบว่าการสวมหมวกนิรภัยที่ได้มาตรฐานจะช่วยลดระดับความรุนแรงของการบาดเจ็บและช่วยป้องกันการสูญเสียชีวิต ส่วนผู้ขับรถ รวมถึงผู้โดยสาร ทั้งรถยนต์ส่วนบุคคลและรถโดยสารสาธารณะ ต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งและตลอดการเดินทาง เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายกระเด็นออกไปนอกตัวรถเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ลดอาการบาดเจ็บจากแรงกระแทก และต้องปฏิบัติตามกฎจราจรและป้ายเตือนอย่างเคร่งครัด