Transport

“บขส.” อำนวยความสะดวกรถโดยสารเดินทางเลือกตั้ง 14 พ.ค.นี้

“บขส.” จัดรถโดยสารวันละ 3,500 เที่ยว รองรับผู้โดยสารวันละ 35,000 คน ให้บริการประชาชนเดินทางช่วงการเลือกตั้ง 2566 พร้อมบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวก เดินทางด้วยความสะดวกและปลอดภัย

ดร.สัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า บขส. ได้ประชุมแผนปฏิบัติการเดินรถรองรับการเดินทางช่วงการเลือกตั้ง 2566 ร่วมกับผู้แทนจากกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) การรถไฟ แห่งประเทศไทย (รฟท.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ เพื่อเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกประชาชนเดินทางกลับไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.2566

ทั้งนี้ บขส. ได้คาดการณ์ว่าผู้โดยสารจะทยอยเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดต่าง ๆ ทั่วทุกภูมิภาค ตั้งแต่วันที่ 11-12 พ.ค.2566 เฉลี่ยวันละ 35,000 คน ใช้รถโดยสาร (รถ บขส., รถร่วม, รถตู้) เฉลี่ยวันละ 3,500 เที่ยว และในเที่ยวกลับ วันที่ 15 พฤษภาคม 2566 คาดว่ามีผู้โดยสารเดินทาง เฉลี่ยวันละ 35,000 คน ใช้รถโดยสารประมาณ 3,500 เที่ยว นอกจากนี้ เพื่อป้องกันผู้โดยสารตกค้าง บขส. ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการนำรถโดยสารไม่ประจำทาง (รถทะเบียน 30) มาจัดเสริมในเส้นทางต่าง ๆ ประมาณ 300 คัน ซึ่ง ผู้โดยสารที่ประสงค์เดินทางในช่วงเวลาดังกล่าว สามารถจองตั๋วโดยสารผ่านช่องทางต่าง ๆ อาทิ Application : E-ticket, Website บขส. : https://tcl99web.transport.co.th , ตัวแทนจำหน่ายตั๋ว และช่องจำหน่ายตั๋ว บขส. ณ สถานีเดินรถทั่วประเทศ สอบถามข้อมูล บขส. ได้ที่ Call Center 1490

เพื่อยกระดับความปลอดภัยให้เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม ในการดูแลประชาชนให้ได้รับความสะดวกและปลอดภัย บขส. ได้ขอความร่วมมือจากกรมการขนส่งทางบก,เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางซื่อ ช่วยลงพื้นที่ตรวจสอบความปลอดภัย และกวดขันไม่ให้มีการมาตั้งวินผิดกฎหมาย บริเวณโดยรอบสถานีขนส่งฯ เพื่อป้องกันไม่ให้มีกลุ่มมิจฉาชีพมาหลอกลวงผู้โดยสาร และป้องกันปัญหาการจราจรที่ติดขัดในชั่วโมงเร่งด่วน นอกจากนี้ได้ขอใช้พื้นที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นจุดกลับรถและสำรองวิน พร้อมขอความร่วมมือ ขสมก. และผู้ประกอบการรถแท็กซี่ นำรถโดยสารมาอำนวยความสะดวกรับ-ส่งผู้โดยสารในเที่ยวกลับ บริเวณชานชาลาขาเข้า สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร)

ด้านความปลอดภัย ได้เน้นย้ำให้มีการเตรียมความพร้อมของรถโดยสารก่อนการเดินทาง โดยตรวจเช็ครถโดยสารให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ควบคุมความเร็วบนรถโดยสาร ไม่เกิน 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง จัดพนักงานขับรถ 2 คน ในเส้นทางสายยาวที่ใช้เวลาเดินทางเกิน 4 ชั่วโมง พนักงานขับรถต้องปลอดแอลกอฮอล์และสารเสพติด และให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) รวมทั้งใช้มาตรการ 4 พร้อม คือ สถานีพร้อม, พนักงานพร้อม, รถโดยสารพร้อม และการบริการพร้อม ในการอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร

 

Loading

Back to top button